รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เรียกร้องวานนี้ (21 ต.ค.) ให้สมาชิกพรรครีพับลิกันยืดหยันต่อสู้อย่างเข้มแข็งเพื่อปกป้องรัฐบาล พร้อมชี้ว่าพวก ส.ส.เดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรมีแผน “ถอดถอน” ตนให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด โดยยกเรื่องที่ตนขอให้ผู้นำยูเครนช่วยตรวจสอบ โจ ไบเดน มาเป็นข้ออ้าง
ถ้อยแถลงของ ทรัมป์ มีขึ้นระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบขาว ในขณะที่ฝ่ายเดโมแครตเร่งระดมเสียงสนับสนุนกระบวนการถอดถอน (impeachment) ประธานาธิบดีออกจากตำแหน่ง แม้ต้องเผชิญความพยายามเตะสกัดอย่างเต็มที่จากฟากรัฐบาลก็ตาม
แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอและเอกสารข้อเท็จจริงซึ่งพอจะให้ภาพกว้างๆ เกี่ยวกับการตั้งข้อหากับ ทรัมป์ อย่างเป็นทางการ (articles of impeachment) เพื่อนำไปสู่การลงมติถอดถอน โดยคาดว่า ส.ส.เดโมแครตอาจกล่าวหา ทรัมป์ ว่าใช้อำนาจโดยมิชอบ, ล็อบบี้รัฐบาลต่างชาติ และปกปิดการกระทำความผิด
จนถึงขณะนี้มีสมาชิกรีพับลิกันเพียงไม่กี่คนที่มีท่าทีสนับสนุนกระบวนการถอดถอนทรัมป์ แม้ฝ่ายเดโมแครตจะพยายามเปิดโปงพฤติกรรมของผู้นำสหรัฐฯ ที่ใช้พันธมิตรต่างชาติเป็นเครื่องมือเล่นงาน โจ ไบเดน ผู้สมัครประธานาธิบดีตัวเต็งของเดโมแครต โดยหวังผลประโยชน์ทางการเมืองในศึกเลือกตั้งปี 2020
ส.ว.มิตต์ รอมนีย์ เป็นเพียงไม่กี่คนในพรรครีพับลิกันที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ทรัมป์ อย่างรุนแรง ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด
ทั้งนี้ หากสภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างญัตติถอดถอน เรื่องก็จะถูกส่งต่อมายังวุฒิสภา และเป็นหน้าที่ของเหล่า ส.ว.รีพับลิกันที่ครองเสียงข้างมากว่าจะสนับสนุนการถอดถอน ทรัมป์ หรือไม่
“คนในพรรครีพับลิกันจะต้องต่อสู้อย่างเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เรามีหลายคนที่เป็นนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ แต่พวกเขาต้องสู้ให้มากกว่านี้ เพราะพวกเดโมแครตมีแผนที่จะบ่อนทำลายพรรครีพับลิกันก่อนการเลือกตั้ง” ทรัมป์ ระบุ พร้อมชี้ว่าพรรคเดโมแครต “มีจุดประสงค์ร้าย และเกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่น”
“พวกเขาไม่มีคนอย่าง มิตต์ รอมนีย์ พวกเขาไม่มีคนแบบนั้นอยู่เลย พวกเขาร่วมมือกันเป็นอย่างดี”
รอมนีย์ เป็นอดีตผู้สมัครชิงประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกันเมื่อปี 2012 และพ่ายแพ้ให้แก่ บารัค โอบามา จากพรรคเดโมแครต
ระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการ ‘Axios on HBO’ รอมนีย์ตำหนิ ทรัมป์ ที่ไปขอร้องให้รัฐบาลยูเครนและจีนตรวจสอบพฤติกรรมของไบเดน ทั้งยังตั้งคำถามเกี่ยวกับบุคลิกของผู้นำสหรัฐฯ, การตัดสินใจทอดทิ้งพันธมิตรเคิร์ดในซีเรีย และการจ่ายเงินปิดปากอดีตดาวโป๊ที่เคยมีสัมพันธ์สวาทกับทรัมป์
ผู้สื่อข่าวถาม ทรัมป์ ว่า เวลานี้สรุปได้แล้วหรือไม่ว่า ส.ส.เดโมแครตจะโหวตถอดถอนอย่างแน่นอน ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ ตอบว่า “พวกเขาต้องการถอดถอนผม และต้องการทำให้สำเร็จเร็วที่สุดด้วย”
เหตุการณ์สำคัญที่นำมาสู่กระบวนการไต่สวนถอดถอนผู้นำสหรัฐฯ คือการที่ ทรัมป์ โทรศัพท์ไปคุยกับประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเมื่อวันที่ 25 ก.ค. เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบ โจ ไบเดน กับบุตรชาย ฮันเตอร์ ไบเดน ซึ่งเคยเป็นผู้อำนวยการบริษัทพลังงานแห่งหนึ่งในยูเครน และยังอ้างทฤษฎีดิสเครดิตที่ระบุว่ายูเครนต่างหากที่แทรกแซงศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 ไม่ใช่รัสเซีย