รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันขยับลงในวันศุกร์ (18 ต.ค.) หลังข้อมูลการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนโหมกระพือความกังวลอุปสงค์อ่อนแอ ปัจจัยนี้ประกอบกับข่าวพาดหัวแง่ลบของโบอื้งฉุดวอลล์สตรีทร่วงหนัก ขณะที่ทองคำก็ปรับลดเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 15 เซ็นต์ ปิดที่ 53.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 49 เซ็นต์ ปิดที่ 59.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ของโลก เผยแพร่ข้อมูลในวันศุกร์ (18 ต.ค.) เปิดเผยว่าเศรษฐกิจของประเทศไตรมาส 3 ขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่ 6.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 27 ปี สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ รวมไปถึงอุปสงค์ภายในประเทศจีนที่ซบเซาลง
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงหนักในวันศุกร์ (18 ต.ค.) หลังข่าวพาดหัวในแง่ลบ ทั้งกับจอห์นสันแอนด์จอห์นสันและโบอิ้ง รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจจีน กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง แม้รายงานผลประกอบการของหลายบริษัทออกมาในด้านบวกก็ตาม
ดาวโจนส์ ลดลง 255.68 จุด (0.95 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 26,770.20 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 11.75 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,986.20 จุด แนสแดค ลดลง 67.31 จุด (0.83 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,089.54 จุด
โบอิ้ง โค และ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน กลายเป็นตัวฉุดสำคัญของดาวโจนส์ โดยโบอิ้งขยับลง 4.9% หลังรอยเตอร์ตีข่าวการส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือระหว่างพนักงาน 2 คน บ่งชี้ว่าผู้ผลิตเครื่องบินรายนี้ชี้นำสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) ให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับความปลอดภัยของเครื่องบินแม็กซ์ 737 ที่ปัจจุบันถูกห้ามบินทั่วโลก
ขณะที่ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน แถลงว่าจะเรียกคืนแป้งเด็กในสหรัฐฯ หลังคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบตรวจพบแร่ใยหินปนเปื้อนในตัวอย่าง ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ป่วยเป็นมะเร็ง ฉุดหุ้นของทางบริษัทดำดิ่งลงถึง 5.6%
ส่วนราคาทองคำปิดลบในวันศุกร์ (18 ต.ค.) นักลงทุนมองในแง่บวกอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 4.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,494.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์