รอยเตอร์ - เกิดเหตุระเบิดตูมสนั่นหลายระลอกที่มัสยิดแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออกของอัฟกานิสถานในวันศุกร์(18ต.ค.) ส่งผลให้หลังคาพังถล่มลงมาทับเหล่านักแสงบุญระหว่างประกอบพิธีละหมาด คร่าชีวิตอย่างน้อย 62 ศพและบาดเจ็บมากกว่า 100 คน
อุตตาอุลเลาะห์ คอกยานี โฆษกผู้ว่าราชการจังหวัดนันกาฮาร์ เปิดเผยว่าระเบิดหลายลูกถูกซุกไว้ภายในมัสยิด ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่จอดาระ ของเขตฮาสกา เมนา
ส่วน ซอห์รับ กาเดรี สมาชิกสภาจังหวัดนันกาฮาร์ เสริมว่า "เจ้าหน้าที่ที่ใช้เครื่องขุด ยังคงหาทางนำศพผู้เสียชีวิตและช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาจากซากหักพังของหลังคา" พร้อมคาดหมายว่ายอดผู้เสียชีวิตน่าจะมีมากกว่านี้
มาลิก โมฮัมมาดี กุล ซินวารี ผู้อาวุโสของชนเผ่าหนึ่งในพื้นที่เผยว่ามัสยิดถูกทำลายโดยสิ้นเชิง "ผมแทบใจสลายเลยที่ต้องมาเห็นภาพแบบนี้" เขากล่าว
ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่รัฐบาลกล่าวหาว่ามันเป็นฝีมือของพวกก่อความไม่สงบตอลิบาน ซึ่งกำลังต่อสู้เพื่อกลับมาบังคับใช้กฎหมายอิสลามอันเข้มงวดอีกครั้ง หลังจากพวกเขาถูกกองกำลังที่นำโดยสหรัฐฯขับไล่พ้นจากอำนาจในปี 2001
เซดิก เซดิกก โฆษกทำเนียบประธานาธิบดี ประณามในสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็นการโจมตีด้วยมือระเบิดฆ่าตัวตาย "ตอลิบานและพวกอาชญากรชั่วช้าพันธมิตรของพวกเขา ยังคงเล็งเป้าหมายเล่นงานพลเรือนในช่วงเวลาแห่งการแสวงบุญ"
อย่างไรก็ตาม ซาฮาอิล ชาฮีน โฆษกของตอลิบาน ปฏิเสธว่าพวกเขาไม่ได้อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ "พวกผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างระบุว่ามันเป็นการโจมตีด้วยปืนครกโดยกองกำลังติดอาวุธสุดโต่งในกรุงคาบูล Kabul Adm.(Administration)"
คำปฏิเสธมีขึ้นแม้ว่า ตอลิบานและกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) เคลื่อนไหวปฏิบัติการอย่างขะมักเขม้นในพื้นที่ต่างๆของจังหวัดนันการ์ฮาร์ ซึ่งมีชายแดนติดกับปากีสถาน ในทางตะวันออก
ทั้งนี้ในรายงานของสหประชาชาติ ระบุมีพลเรือนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บถึง 4,313 รายในอัฟกานิสถาน ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา