เอเอฟพี – เกิดอุบัติเหตุรถบัสพุ่งชนประสานงากับรถแทร็กเตอร์ใกล้นครมะดีนะห์เมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมในซาอุดีอาระเบีย เป็นเหตุให้ผู้โดยสารซึ่งเป็นชาวต่างชาติเสียชีวิต 35 ราย บาดเจ็บอีก 4 คน สื่อทางการซาอุฯ รายงานวันนี้ (17 ต.ค.)
โฆษกตำรวจมะดีนะห์เผยว่า เหตุระทึกขวัญดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันพุธ (16) เมื่อรถบัสเช่าคันหนึ่งเกิดพุ่งชนเข้ากับรถแทรกเตอร์ ทำให้ผู้แสวงบุญที่เป็นชาวอาหรับและเอเชียเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย
สำนักข่าว SPA ของซาอุฯ เผยภาพรถบัสซึ่งกำลังถูกเพลิงโหมลุกไหม้และกระจกแตกทั้งคัน
ผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลอัล-ฮัมนา ขณะที่ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้
เดือน เม.ย. ปีที่แล้วก็เคยเกิดอุบัติเหตุรถบัสพุ่งชนกับรถบรรทุกน้ำมันขณะกำลังมุ่งหน้าไปยังนครเมกกะ ทำให้ผู้แสวงบุญชาวอังกฤษเสียชีวิต 4 คน บาดเจ็บอีก 12 คน
ก่อนหน้านั้นในเดือน ม.ค. ปี 2017 พลเมืองอังกฤษ 6 คนซึ่งรวมถึงทารกวัย 2 เดือนก็ต้องมาจบชีวิตลง เมื่อรถมินิบัสที่พวกเขาโดยสารมาประสบอุบัติเหตุระหว่างทางจากมะดีนะห์ไปยังเมกกะ
รัฐบาลซาอุดีอาระเบียหันมาชูนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสนาตลอดทั้งปี โดยหวังดึงดูดผู้แสวงบุญชาวมุสลิมหลายล้านคนจากทั่วโลก ตามแผนปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจให้มีความหลากหลาย
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลซาอุฯ จะออกวีซ่าให้เฉพาะผู้แสวงบุญชาวมุสลิม, แรงงานต่างชาติ รวมถึงผู้ที่จะเดินทางมาชมการแข่งขันกีฬาหรือกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ ทว่าตั้งแต่เดือน ก.ย. เป็นต้นมา ริยาดเริ่มออกวีซ่าให้แก่นักท่องเที่ยวทั่วไป และตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวถึง 100 ล้านคนต่อปีภายในปี 2030ตามวิสัยทัศน์ขององค์มกุฎราชกุมาร เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ที่มุ่งเตรียมความพร้อมสู่ยุคที่น้ำมันหมดไป