เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮาหมัด แห่งมาเลเซียระบุวานนี้ (13 ต.ค.) ว่ารัฐบาลกำลังเฝ้าจับตาความสัมพันธ์ทางการค้ากับอินเดีย หลังมีกระแสข่าวว่านิวเดลีอาจจำกัดการนำเข้าสินค้าแดนเสือเหลืองเพื่อตอบโต้ที่ มหาเธร์ วิพากษ์วิจารณ์ประเด็นแคชเมียร์บนเวทีสหประชาชาติ
รอยเตอร์อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวในรัฐบาลและภาคอุตสาหกรรมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลอินเดียกำลังพิจารณาจำกัดการนำเข้าน้ำมันปาล์มและสินค้าอื่นๆ จากมาเลเซีย เพื่อแก้แค้นที่ มหาเธร์ ไปพูดบนเวทีสหประชาชาติเมื่อเดือน ก.ย. ว่าอินเดีย “รุกรานและเข้าไปยึดครอง” รัฐจัมมูและแคชเมียร์ ทั้งยังเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ร่วมมือกับปากีสถานเพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง
รัฐบาลเสือเหลืองยืนยันว่ายังไม่ได้รับการบอกกล่าวใดๆ อย่างเป็นทางการจากอินเดีย
ล่าสุด สำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซีย อ้างถ้อยแถลงของมหาเธร์ วานนี้ (13 ต.ค.) ว่า รัฐบาล “จะศึกษาผลกระทบจากมาตรการของอินเดีย” พร้อมย้ำว่า “พวกเขาก็ส่งออกสินค้ามายังมาเลเซียเช่นกัน นี่ไม่ใช่การค้าทางเดียว แต่เป็น 2 ทาง”
แคชเมียร์ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมถูกแบ่งออกเป็นฝั่งอินเดียและปากีสถาน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็พยายามอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนทั้งหมด และเคยทำสงครามกันมาแล้วถึง 2 ครั้ง
รัฐบาล โมดี ได้สั่งเพิกถอนสถานะเขตปกครองตนเองของแคชเมียร์ฝั่งอินเดียเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ซึ่งสร้างความโกรธกริ้วต่อทั้งปากีสถานและพลเมืองมุสลิมท้องถิ่น
อินเดียเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันประกอบอาหารรายใหญ่ที่สุดของโลก และยังเป็นลูกค้าน้ำมันปาล์มอันดับ 1 ของมาเลเซีย โดยนำเข้าน้ำมันปาล์มจากแดนเสือเหลืองมากถึง 3.9 ล้านบาร์เรลในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ตามข้อมูลจากคณะกรรมการน้ำมันปาล์มของมาเลเซีย (Malaysian Palm Oil Board)
สำหรับสินค้าที่มาเลเซียนำเข้าจากอินเดียนั้น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม, สัตว์เป็นๆ และเนื้อสัตว์, โลหะชนิดต่างๆ, สารเคมี และเคมีภัณฑ์