xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้า ‘เฟสแรก’ กับจีน-ชะลอขึ้นภาษีระลอกใหม่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

รองนายกรัฐมนตรี หลิว เหอ ของจีน (กลาง) ทักทายสื่อมวลชนพร้อมกับ โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ซ้าย) และรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง สตีเวน มนูชิน เมื่อวันที่ 10 ต.ค.
รอยเตอร์ – ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เผยร่างข้อตกลงการค้า ‘เฟสแรก’ กับจีนวานนี้ (11 ต.ค.) พร้อมสั่งชะลอมาตรการรีดภาษีสินค้าจีนระลอกใหม่ที่จะเริ่มมีผลบังคับในสัปดาห์หน้า

ข้อตกลงเบื้องต้นซึ่งครอบคลุมทั้งเรื่องสินค้าเกษตร, อัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงกลไกปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา ถือเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญในการเจรจาเพื่อยุติสงครามการค้าที่ยืดเยื้อและสั่นคลอนเศรษฐกิจโลกมานานถึง 15 เดือน

ทรัมป์ ไม่ได้ลงลึกถึงรายละเอียดของข้อตกลง ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 5 สัปดาห์จึงจะร่างเสร็จสมบูรณ์ พร้อมยอมรับว่าดีลฉบับนี้อาจ “ล้มเหลว” ก็เป็นได้ แต่ตนมั่นใจว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น

“ผมเชื่อว่าเรามีความเข้าใจขั้นพื้นฐานที่ตรงกันในประเด็นสำคัญๆ เราได้จัดทำเอกสารต่างๆ ไปมากพอสมควร แต่ก็ยังเหลืองานที่ต้องทำอีก” สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวระหว่างที่คณะผู้แทนเจรจาทั้ง 2 ฝ่ายร่วมประชุมกับ ทรัมป์ ที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว พร้อมย้ำว่าสหรัฐฯ จะไม่ยอมเซ็นข้อตกลงใดๆ จนกว่าเงื่อนไขทุกอย่างจะถูกระบุเป็นลายลักษณ์อีกษร

ทรัมป์ ระบุว่าจุดสิ้นสุดของสงครามการค้านั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม ในขณะที่รองนายกรัฐมนตรี หลิว เหอ ของจีนยังคงเลือกใช้ถ้อยคำกลางๆ

“การเจรจามีความคืบหน้ามากพอสมควรในหลายด้าน ทางเรารู้สึกยินดี และก็จะพยายามกันต่อไป” หลิว ระบุ

หนังสือพิมพ์พีเพิลส์เดลีของจีนกล่าวผ่านบทบรรณาธิการฉบับวันนี้ (12) ว่า ปักกิ่งมองว่าการเจรจากับสหรัฐฯ รอบล่าสุดเป็นไปอย่าง “สร้างสรรค์ ตรงไปตรงมา และมีประสิทธิภาพ” ขณะเดียวกันก็ย้ำเตือนว่า แม้ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังก้าวไปสู่ทางออกของสงครามการค้า “แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะแก้ปัญหาด้วยการกดดันจีนตามอำเภอใจ”

ทรัมป์ กล่าวยกย่องรัฐบาลจีนที่ตกลงรับซื้อสินค้าเกษตรอเมริกันเป็นมูลค่าถึง 50,000 ล้านดอลลาร์ แต่ยังปฏิเสธที่จะถอนมาตรการรีดภาษีสินค้าจีนมูลค่าหลายแสนล้านที่ได้ประกาศใช้ไปแล้ว

อย่างไรก็ดี มนูชิน ระบุว่า ทรัมป์ ได้สั่งชะลอการปรับขึ้นภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจีนมูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์จาก 25% เป็น 30% ออกไปก่อน ซึ่งเดิมทีมาตรการนี้จะเริ่มมีผลบังคับในวันที่ 15 ต.ค.

ด้าน โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ย้ำว่า ทรัมป์ ยังไม่ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรสินค้าจีนอีกล็อตที่จะมีผลในช่วงเดือน ธ.ค. อีกทั้งข้อตกลงการค้าเฟสแรกนี้ก็ยังไม่มีการพูดถึงสถานะของ หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำเมื่อเดือน พ.ค.

ทรัมป์ เคยประกาศว่าจะไม่ยอมรับข้อตกลงเพียง “บางส่วน” และต้องการบีบให้จีนแก้ไขพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรม, การขโมยทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงนโยบายอุดหนุนอุตสาหกรรมในประเทศซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นเหตุให้สหรัฐฯ สูญเสียงานหลายล้านตำแหน่ง อย่างไรก็ดี ผู้นำสหรัฐฯ กลับออกมาพูดเมื่อวันศุกร์ (11) ว่าแนวทางแบบ “ค่อยเป็นค่อยไป” (phased approach) น่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสม

ทรัมป์ และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน มีกำหนดเดินทางไปประชุมซัมมิตกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่กรุงซันติอาโกของชิลีในวันที่ 16 พ.ย. และ ทรัมป์ เองก็เอ่ยเป็นนัยๆ ว่าอาจจะมีการลงนามข้อตกลงการค้ากับจีนที่นั่น

กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดี (10) ว่าได้มีการส่งออกเนื้อหมูไปยังจีนรวม 142,172 ตันในช่วงเวลา 1 สัปดาห์จนถึงวันที่ 3 ต.ค. ซึ่งนับเป็นยอดส่งออกรายสัปดาห์ที่สูงเป็นประวัติการณ์

แหล่งข่าวที่ซึ่งเข้าถึงรายละเอียดการเจรจาระบุว่า เนื้อหาข้อตกลงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญานั้นจะเน้นหนักไปที่การปกป้องลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า ทว่ายังไม่มีการพูดถึงเรื่องการถ่ายโอนเทคโนโลยีขั้นสูง ความมั่นคงไซเบอร์ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ และระบบคะแนนความน่าเชื่อถือทางสังคม (social credit) ซึ่งจะประเมินจากพฤติกรรมการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่างๆ

กำลังโหลดความคิดเห็น