เอเอฟพี - วันนี้(6 ต.ค)ศาลสูงฮ่องกงออกคำพิพากษาปฎิเสธการขอคำสั่งฉุกเฉินระงับการบังคับใช้กฎหมายห้ามสวมหน้ากากในการประท้วงที่ออกมาโดยรัฐบาลฮ่องกงวันศุกร์(4 ต.ค) ท่ามกลางการออกมาประท้วงรอบใหม่และมีสถานีรถไฟใต้ดินทั่วเมืองครึ่งหนึ่งที่ยังคงปิดต่อไป
เอเอฟพีรายงานวันนี้(6 ต.ค)ว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกงฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยได้ไปยื่นเรื่องที่ศาลสูงฮ่องกงเพื่อต้องการขอคำสั่งฉุกเฉินระงับการบังคับใช้กฎหมายห้ามสวมหน้ากากในที่ชุมนุม โดยชี้ว่าเป็นคำสั่งที่ออกมาไม่ผ่านสภาและอีกทั้งยังละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญของฮ่องกง
แต่ผู้พิพากษาปฎิเสธการยื่นครั้งนี้ ซึ่งในระหว่างที่มีคำพิพากษาออกมาพบมีการประท้วง 2 แห่งเกิดขึ้นในทั้ง 2 ฝั่งของอ่าววิคตอเรียที่มีผู้ประท้วงจำนวนมากต่างเข้าร่วมและสวมหน้ากากปิดบังใบหน้า
หลังคำพิพากษาไม่รับออกมา สมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกง เดนนิส กวาก(Dennis Kwok) ให้ความเห็นว่า “ผมขอกล่าวเลยว่านี่ถือเป็นหนึ่งในเคสกฎหมายรัฐธรรมนูญฮ่องกงที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของฮ่องกง”
และกล่าวต่อว่า “หากกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินสามารถผ่านได้ง่ายดายเช่นนั้นก็เท่ากับว่าฮ่องกงจะต้องตกลงไปในหลุมแห่งความมืดโดยที่ไม่ต้องสงสัย” ซึ่งกวากก่อนหน้านี้ได้เปรียบเทียบผู้ว่าการเกาะฮ่องกง แครี แลม เหมือนกับพระเจ้าเฮนรีย์ที่ 8 แห่งอังกฤษซึ่งถือเป็นยุคเอกาธิปัตย์
ความวุ่นวายหลังจากเด็กมัธยมปลายชายวัย 18 ปีถูกยิงเข้าที่อกโดยตำรวจฮ่องกงในช่วงวันเฉลิมฉลองวันชาติจีนแล้ว พบว่าวันศุกร์(4)ซึ่งเป็นวันที่แลมประกาศใช้กฎหมายห้ามสวมหน้ากากในการประท้วงมีเด็กชายชาวฮ่องกงวัย 14 ปีได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงในคืนนั้น ส่วนระบบรถไฟใต้ดินฮ่องกงได้ปิดลงในคืนวันศุกร์(4) เพิ่งมาเปิดใช้บางส่วนในวันนี้(6)
เอเอฟพีรายงานผู้ให้บริการระบบรถไฟใต้ดินฮ่องกงกล่าวว่า มี 45 สถานีที่กลับมาเปิดใช้บริการแต่อีก 48 สถานียังคงปิดต่อไป
