เอเอฟพี – รัฐบาลอิรักยกเลิกคำสั่งห้ามออกจากบ้านช่วงกลางวันในกรุงแบกแดดวันนี้ (5) แต่การเข้าถึงถนนสู่จัตรุรัสใหญ่ๆ ยังคงถูกปิดกั้น เนื่องจากเกรงว่าจะมีการประท้วงนองเลือดอีก ผู้สื่อข่าวเอเอฟพี รายงาน
ยอดผู้เสียชีวิตจากกาปรระท้วงใหญ่ในแบกแดดและหลายเมืองทั่วตอนใต้ของอิรักเพิ่มขึ้นเป็น 73 ราย ในขณะที่ความไม่สงบก้าวเข้าสู่วันที่ห้า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของรัฐสภา ระบุ
มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 3,000 คนนับตั้งแต่การประท้วงต่อต้านการว่างงาน บริการสาธารณะที่ย่ำแย่ และการคอร์รัปชั่นปะทุในเมืองหลวงเมื่อวันอังคาร (1) คณะกรรมการ ระบุ
ผู้ชุมนุมทั้งหมด 540 คนถูกจับกุม ในจำนวนนี้เกือบ 200 คนยังคงถูกกักขังอยู่ คณะกรรมการ เผย
นายกรัฐมนตรี อาเดล อับเดล มาห์ดี ออกคำสั่งให้ยกเลิกประกาศเคอร์ฟิวในเมืองหลวงตั้งแต่เวลา 5.00 น. ถึงแม้ว่าการตัดขาดอินเตอร์เน็ตจะยังมีผลอยู่ก็ตาม
ประชาชนกลับมาเดินถนนเพื่อซื้อผักผลไม้และของสดอื่นๆ ซึ่งราคาเพิ่มขึ้นเท่าตัวนับตั้งแต่การประท้วงนองเลือดเริ่มต้นขึ้น
พนักงานเทศบาลทำความสะอาดถนนเริ่มเก็บกวาดเศษซากจากการปะทะ 4 วันติดระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจปราบจลาจล ซึ่งทำให้เห็นก้อนอิฐและยางรถไหม้กระจัดกระจายทั่วถนนใหญ่
ตำรวจปราบจลาจลปิดการจราจรระหว่างจัตุรัสตอห์รีและจุดชุมนุมอื่นๆ ในขณะที่ทางการกำลังรอดูอยู่ว่าเสียงเรียกร้องจากนักการศาสนาชื่อดัง มอกตาดา อัลซาดร์ ที่จะให้รัฐบาลลาออกจะสามารถดึงผู้สนับสนุนออกมาบนถนนได้หรือไม่
ขบวนการซาดริสเป็นหัวหอกหลักในการเคลื่อนไหวประท้วงใหญ่ๆ เกือบทั้งหมดในช่วงไม่กี่ปีมานี้
ในขณะที่รัฐสภาเตรียมเปิดประชุมในวันนี้ (5) ผู้เฝ้าติดตามสถานการณ์คนหนึ่ง อับดุล ซาลาห์ วัย 70 ปีไม่เชื่อว่ากระประท้วงจบลงแล้ว “หากสภาพความเป็นอยู่ไม่ดีขึ้น ผู้ประท้วงจะกลับมา” เขากล่าว