รอยเตอร์ - สหรัฐฯได้รับความเห็นชอบจากองค์การการค้าโลก(WTO) ในวันพุธ(2ต.ค.) ในการกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรปมูลค่า 7,500 ล้านดอลลาร์ ตอบโต้กรณีอียูให้การอุดหนุนแอร์บัสอย่างผิดกฎหมาย ความเคลื่อนไหวที่เสี่ยงจุดชนวนสงครามการค้าข้ามแอตแลนติกแบบตาต่อตาฟันต่อฟันและสั่นคลอนเศรษฐกิจโลก
การตัดสินใจขององค์การการค้าโลกได้ผลักข้อพิพาทที่ยืดเยื้อมานาน 15 ปีต่อกรณีทั้งที่อียูและสหรัฐฯ ต่างกล่าวหากันและกันว่าจ่ายเงินอุดหนุนผิดกฎหมายนับหมื่นๆล้านดอลลาร์ให้แก่โบอิ้งและแอร์บัส เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในธุรกิจการบินโลก เข้าสู่แก่นกลางแห่งความเสื่อมโทรมของความสัมพันธ์การค้าโลก เพิ่มเติมจากสงครามรีดภาษีระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง
คณะลูกขุนของอนุญาโตตุลาการ WTO ระบุว่าสหรัฐฯได้รับความเสียหายประเมินแล้ว 7,500 ล้านดอลลาร์ต่อปีจากการที่รัฐบาลยุโรปให้เงินกู้ยืมแบบมีส่วนลด สำหรับผลิตเครื่องบินขนาดใหญ่ต่างๆอย่างเช่นแอร์บัส A380 เครื่องบินโดยสารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เปิดทางให้วอชิงตันสามารถเล่นงานทางภาษีสินค้านำเข้าจากอียูมูลค่า 7,500 ล้านดอลลาร์เช่นกัน แต่ห้ามรีดภาษีในกิจการบริการทางการเงิน
ด้านคณะกรรมาธิการยุโรปออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับตัดสินขององค์การการค้าโลกในทันที โดย เซซิเลีย มัลสตรอม ประธานคณะกรรมาธิการการค้าของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวว่าอียู พร้อมจะตอบโต้สหรัฐฯ หากสหรัฐฯเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากยุโรปตามคำตัดสินขององค์การการค้าโลก (WTO)
"หากสหรัฐฯตัดสินใจดำเนินการตอบโต้ตามคำตัดสินของ WTO สิ่งนี้จะผลักดันให้อียูเข้าสู่สถานการณ์ที่ทำให้เราไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะต้องดำเนินการตอบโต้เช่นเดียวกัน" มัลสตรอมกล่าว
มัลสตรอมยังเตือนว่า การดำเนินมาตรการตอบโต้กันระหว่างอียูและสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและประชาชนจากทั้งสองฝ่าย ขณะที่อียูและสหรัฐฯต่างมีความผิดเหมือนกันจากการที่อียูอุดหนุนแอร์บัส และสหรัฐฯก็อุดหนุนโบอิ้ง
องค์การการค้าโลกพบก่อนหน้านี้แล้วว่าทั้งแอร์บัสของยุโรปและโบอิ้ง คู่แข่งจากสหรัฐฯ ต่างได้รับการอุดหนุนอย่างผิดกฎหมาย ในข้อพิพาททางการค้านิติบุคคลใหญ่ที่สุดของโลก การต่อสู้ทางกฎหมายอย่างมาราธอนย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2004
ทั้งนี้องค์การการค้าโลกมีกำหนดตัดสินในช่วงต้นปีหน้า ถึงระดับมาตรการรีดภาษีรายปีที่อียูสามารถกำหนดเล่นงานสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ
เวลานี้ความสนใจได้หันเหไปยังวอชิงตัน ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้จุดยืนก้าวร้าวในด้านความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศ ท่ามกลางความคาดหมายว่าสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในการจำกัดวงรายชื่อสินค้าต่างๆในเบื้องต้นที่จะถูกขึ้นบัญชีรีดภาษี
สำหรับบัญชีชั่วคราวของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เกี่ยวกับรายชื่อสินค้าต่างๆที่มีสิทธิ์ถูกเล่นงานด้วยมาตรการรีดภาษีนั้น ครอบคลุมสินค้าต่างๆที่นำเข้าจากยุโรป มูลค่านำเข้ารายปี 25,000 ล้านดอลลาร์ ไล่ตั้งแต่ตัวเครื่องบินของแอร์บัสเอง ไปจนถึงเฮลิคปเตอร์, ไวน์, หัวน้ำหอม, กระเป๋าถือและชีส
ก่อนที่จะสามารถกำหนดมาตรการรีดภาษีใดๆ หน่วยงานคลี่คลายข้อพิพาทของ WTO จำเป็นต้องลงมติตอบรับรายงานของอนุญาโตตุลาการอย่างเป็นทางการเสียก่อน ขั้นตอนที่คาดหมายว่าจะใช้เวลาราวๆ 10 วันถึง 4 สัปดาห์
ในคดีใหญ่ที่สุดเท่าที่ทาง WTO เคยจัดการมา วอชิงตันร้องขออนุญาตรีดภาษีสินค้านำเข้าจากอียูสูงสุด 11,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนบรัสเซลส์ ก็ร้องขอรีดภาษีสินค้านำเข้าจากอเมริกา 10,000 ล้านดอลลาร์ ต่อกรณีอุดหนุนแอร์บัส ซึ่งมีการพิจารณาคดีคู่ขนานกันไป
พวกผู้ผลิตอียูต่างต้องเผชิญกับมาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯอยู่ก่อนแล้ว ในด้านการส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียม แถมทางประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังขู่ลงโทษทางภาษีรถยนต์นำเข้าและอะไหล่รถยนต์นำเข้าจากอียูด้วย ในขณะที่อียูก็ดำเนินการตอบโต้เช่นกัน