เอเอฟพี/รอยเตอร์ - อังกฤษในวันอังคาร(1ต.ค.) วิพากษ์วิจารณ์ยุทธวิธีของตำรวจฮ่องกงในการรับมือกับพวกผู้ประท้วงฝักใฝ่ประชาธิปไตย พร้อมเตือนการใช้กระสุนจริงรังแต่จะทำให้สถานการณ์ความตึงเครียดที่ยืดเยื้อมานานร้อนระอุยิ่งขึ้นไปอีก
"ในขณะที่ไม่ควรมีข้ออ้างใดในการใช้ความรุนแรง การใช้กระสุนจริงเป็นการตอบโต้ที่ไม่สมเหตุสมผลกัน และรังแต่จะเสี่ยงโหมกระพือสถานการณ์" โมนินิค ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษระบุในถ้อยแถลง
ฮ่องกง อดีตอาณานิคมของอังกฤษ ซึ่งถูกส่งมอบคืนแก่จีนในปี 1997 ถูกห้อมล้อมด้วยระลอกคลื่นแห่งการประท้วงตลอดช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา
การประท้วงในฮ่องกงโหมกระพือขึ้น ตอบโต้ความเคลื่อนไหวของแคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดเขตพิเศษแห่งนี้ที่เสนอร่างกฎหมายฉบับหนึ่งซึ่งเปิดทางให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีในจีน แม้เวลานี้ได้มีการถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกไปแล้ว แต่การชุมนุมได้ยกระดับสู่การเรียกร้องปฏิรูปประชาธิปไตยและคัดค้านการบั่นทอนเสรีภาพในฮ่องกง
ท่ามกลางเหตุเผชิญหน้าที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างการประะท้วงในวันอังคาร(1ต.ค.) พบเห็นตำรวจใช้กระสุนยิงผู้ชุมนุมวัยรุ่นรายหนึ่ง ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่จะมีพิธีฉลองครบรอบ 70 ปีแห่งการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน
ราบ บอกว่า "เหตุยิงอีกครั้ง แสดงให้เห็นถึงความจำเปนสำหรับการพูดคุยเจรจาอย่างสร้างสรรค์ระหว่างสองฝ่าย เราต้องการเห็นความอดทนอดกลั้น และหวังเห็นทั้งพวกผู้ประท้วงและเจ้าหน้าที่ฮ่องกง ช่วยกันลดสถานการณ์ความตึงเครียด"
ในวิดีโอที่ถ่ายไว้โดยมือสมัครเล่นในเหตุความรุนแรงระหว่างการประท้วงในฮ่องกงในวันอังคาร(1ต.ค.) สามารถจับภาพได้ในนาทีที่ตำรวจนายหนึ่งเล็งปากกระบอกปืนสั้นใส่ผู้ประท้วงชุดดำคนหนึ่ง พร้อมกับลั่นไกออกมา จนทำให้ชายหนุ่มคนดังกล่าวเซถลาล้มลงไปกองกับพื้น
ภาพนี้ถ่ายไว้ได้โดยบรรดานักนักศึกษาระหว่างเหตุชุลมุนวุ่นวายในย่านเชิงหว่าน และเป็นครั้งแรกเท่าที่ทราบ ว่ามีผู้ประท้วงคนหนึ่งถูกยิงด้วยกระสุนจริงระหว่างการประท้วงที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือน และหลายครั้งได้ลุกลามบานปลายเข้าสู่การปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุม
ตำรวจยืนยันว่าเจ้าหน้าที่นายหนึ่งยิงใส่พวกผู้ประท้วง แต่แก้ต่างว่าเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทำไปเพื่อป้องกันตนเอง "พวกผู้ก่อจลาจลกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นงานเจ้าหน้าที่ตำรวจในย่านเชิงหว่าน" ตำรวจระบุในถ้อยแถลง "เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนพวกเขาแล้ว แต่พวกเขายังคงเล่นงานตำรวจ ชีวิตของตำรวจนายหนึ่งตกอยู่ในอันตรายอย่างเลวร้าย และเพื่อปกป้องชีวิตของตนเองและชีวิตของเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ พวกเขาจำเป็นต้องยิ่งใส่ผู้โจมตี"