เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซียเรียกร้องวานนี้ (27 ก.ย.) ให้ตำรวจใช้ความอดทนอดกลั้น พร้อมรับปากจะดำเนินการสอบสวนกรณีนักศึกษา 2 คนเสียชีวิตระหว่างชุมนุมประท้วงต่อต้านกฎหมายใหม่ ซึ่งกลายเป็นเหตุจลาจลทางการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซียในรอบหลายสิบปี
ประชาชนทั่วอินโดนีเซียออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนนเพื่อคัดค้านกฎหมายใหม่ซึ่งกำหนดระวางโทษจำคุกสำหรับการมีเซ็กซ์นอกสมรส และยังลิดรอนบทบาทของหน่วยงานต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน
นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์วัย 19 ปีคนหนึ่งถูกตีเข้าที่ศีรษะจนบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตลง ระหว่างการชุมนุมประท้วงที่เมืองเกนดารี (Kendari) บนเกาะสุลาเวสีเมื่อวันพฤหัสบดี (26)
ตำรวจอินโดนีเซียแถลงวานนี้ (27) ว่า ก่อนหน้านั้นมีเหยื่ออีกรายถูกยิงเสียชีวิตในเมืองเกนดารี แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ใช้กระสุนจริงกับผู้ประท้วง
ประธานาธิบดี วิโดโด สั่งให้ตำรวจเปิดการสอบสวนกรณีการเสียชีวิตของนักศึกษาทั้ง 2 คน ซึ่งถือเป็นบททดสอบที่ท้าทายสำหรับผู้นำอิเหนาซึ่งกำลังจะเริ่มต้นบริหารประเทศเทอมสองในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
“ผมสั่งผู้บัญชาการตำรวจและเจ้าหน้าที่ทุกคนตั้งแต่แรกแล้วว่า อย่าทำอะไรเกินกว่าเหตุ” วิโดโด วัย 58 ปี กล่าว
การตายของนักศึกษาทั้งสองมีขึ้นตามหลังเหตุจลาจลทั่วแดนอิเหนาซึ่งทำให้มีผู้คนบาดเจ็บไปแล้วหลายร้อย และยังปลุกกระแสเรียกร้องให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมป่าเถื่อนของตำรวจ
เจ้าหน้าที่ได้ยิงแก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมที่เมืองมากัสซาร์บนเกาะสุลาเวสี และเมืองเมดันบนเกาะสุมาตราเมื่อวานนี้ (27)
รัฐบาลอิเหนาได้เสนอแผนปฏิรูปกฎหมายซึ่งกำหนดระวางโทษจำคุกสำหรับผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน, จำกัดการขายเครื่องมือคุมกำเนิด, เอาผิดผู้ที่ดูหมิ่นประธานาธิบดี รวมถึงแก้กฎหมายดูหมิ่นศาสนาอิสลามให้มีความเข้มงวดยิ่งกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ตัดสินใจชะลอแผนปฏิรูปกฎหมายออกไปก่อนแล้ว
ชาวอินโดนีเซียส่วนหนึ่งยังไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายที่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นการลดบทบาทของคณะกรรมาธิการขจัดการทุจริตคอร์รัปชัน (Corruption Eradication Commission) โดยจำกัดอำนาจของหน่วยงานแห่งนี้ในการดักฟังผู้ที่ต้องสงสัยว่ามีพฤติกรรมทุจริต
เหตุจลาจลทางการเมืองครั้งนี้นับว่ารุนแรงที่สุดถัดจากการประท้วงขับไล่รัฐบาลซูฮาร์โตในปี 1998 ซึ่งทำให้อินโดนีเซียก้าวสู่ความเป็นชาติประชาธิปไตยที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก
นักศึกษาอินโดนีเซียได้ยื่นข้อเรียกร้องหลายประการต่อรัฐบาลวิโดโด เช่น ยกเลิกการแก้ไขกฎหมายอาญาในบางมาตรา, ถอนทหารออกจากจังหวัดปาปัว และยับยั้งการเผาป่าบนเกาะสุมาตราและบอร์เนียวซึ่งก่อให้เกิดหมอกควันพิษปกคลุมทั่วภูมิภาค