xs
xsm
sm
md
lg

จลาจลเหยียดเชื้อชาติในปาปัวของอินโดฯ ปะทะเดือดรอบใหม่ตายรวม20ศพ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - กองกำลังอินโดนีเซียเปิดเผยในวันจันทร์(23ก.ย.) ว่ามีพลเรือน 19 รายและทหาร 1 นายเสียชีวิตท่ามกลางเหตุจลาจลในเมือง 2 แห่งของจังหวัดปาปัว เหตุนองเลือดล่าสุดในสถานการณ์ความรุนแรงที่ลุกลามบานปลายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จนกลายเป็นเหตุการณ์ความไม่สงบอันเนื่องจากการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติและชาติพันธุ์ครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปี

การประท้วงชุลมุนวุ่นวายที่ยืดเยื้อมานานหลายสัปดาห์ซึ่งบางครั้งก็เลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรงในจังหวัดปาปัวและเวสต์ปาปัว บนเกาะนิวกินี มีขึ้นหลังจากกลุ่มนักศึกษาชาวปาปัวในสุราบายา เมืองใหญ่สุดอันดับ 2 ของอินโดนีเซียบนเกาะชวา ถูกล้อเลียนและโจมตีด้วยฝูงม็อบที่ตะโกนเหยียดเชื้อชาติและชาติพันธุ์อย่างหยาบคาย ขณะที่ฝูงม็อบเหล่านี้กล่าวหาพวกนักศึกษาชาวปาปัวดูหมิ่นธงชาติอินโดนีเซีย

ในเหตุความรุนแรงล่าสุด โฆษกปฏิบัติการปาปัวของกองทัพ ระบุว่ามีพลเรือน 16 รายเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ 65 คนในเมืองวาเมนา จุดที่พวกผู้ประท้วงจุดไฟเผาอาคารต่างๆ "สำหรับวาเมนา ตามข้อมูลจากภาคสนาม มีคนเสียชีวิต 16 รายและบาดเจ็บ 65 คน" อีโค ดาร์มันโต ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ พร้อมระบุว่าตอนนี้สถานการณ์สงบลงแล้ว

ตำรวจเปิดเผยว่าเหตุปะทะเกิดขึ้นตามหลังการเปิดศึกกันระหว่างพวกนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆในเมืองวาเมนา "จากนั้นการต่อสู้กันก็ลุกลามเป็นการเผาอาคารราชการและสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ เช่นเดียวกับทรัพย์สินของเอกชน"

วิคตอร์ เยโม โฆษกคณะกรรมการแห่งชาติเวสต์ปาปัว(KNPB) กลุ่มแบ่งแยกดินแดน ระบุว่าความรุนแรงมีต้นตอจากครูคนหนึ่งพูดจาเหยียดผิวเหยียดเชื้อชาตืใส่พวกนักเรียนภายในเมืองเมื่อวันเสาร์(21ก.ย.) แต่ทางตำรวจปาปัวอ้างหลังจากตรวจสอบข้อมูลจากคณะครูและโรงเรียนแล้ว ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง

ขณะเดียวกันในจายาปุระ เมืองเอกของจังหวัดปาปัว ทหารนายหนึ่งถูกแทงเสียชีวิตขณะกำลังอารักขาพวกผู้ประท้วงนักเรียนที่กำลังออกจากเวทีชุมนุมหนึ่งที่มหาวิทยาลัยท้องถิ่น นอกจากนี้แล้วยังมีพลเรือนอีก 3 รายเสียชีวิตในเหตุปะทะในจุดอื่นๆ

ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซียบอกกับผู้สื่อข่าวว่าสถานการณ์ความรุนแรงในวาเมนา มีต้นตอจากข่าวปลอมและเรียกร้องประชาชนคัดกรองข้อมูลข่าวสารก่อนโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์

โมเอลโดโก เสนาธิการประธานาธิบดี กล่าวหาพวกกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนทั้งหลายว่าปลุกปั่นสถานการณ์ความตึงเครียดเพื่อยั่วยุเจ้าหน้าที่ หลังจากก่อนหน้านี้พวกเจ้าหน้าที่เคยระบุว่าเหตุจลาจลเมื่อเดือนที่แล้ว ถูกออกแบบมาเพื่อดึงดูดให้นานาชาติหันมาสนใจประเด็นปาปัว ระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ซึ่งกำลังประชุมกันในนิวยอร์ก ณ เวลานี้

ปาปัว ซึ่งอุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติเป็นอดีตอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์ ก่อนถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอินโดนีเซียหลังการลงประชามติที่ได้รับการสนับสนุนจากยูเอ็นแต่เต็มไปด้วยข้อถกเถียงในปี 1969 และนับตั้งแต่นั้นจังหวัดแห่งนี้ก็ถูกห้อมล้อมด้วยความขัดแย้งแบ่งแยกดินแดนระดับท้องถิ่นมาตลอด

หลังจากประท้วงเริ่มขึ้นในเดือนสิงหาคม อินโดนีเซียส่งทหารและตำรวจเพิ่มเติมเข้าไปในภูมิภาคดังกล่าวราวๆ 6,000 นาย และเจ้าหน้าที่ได้ทำการปัดกั้นการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตอยู่ช่วงหนึ่ง เพื่อสกัดไม่ให้ใช้สื่อสังคมออนไลน์
กำลังโหลดความคิดเห็น