‘โทมัส คุก’ บริษัทนำเที่ยวเก่าแก่ที่สุดของโลก ‘ล้มละลาย’ ลอยแพลูกค้ากว่า ‘ครึ่งล้าน’

เอเจนซีส์ - บริษัท โทมัส คุก (Thomas Cook) ธุรกิจนำเที่ยวเก่าแก่ที่สุดของโลกจากอังกฤษ เข้าสู่ภาวะล้มละลายในวันนี้ (23 ก.ย.) ทำให้นักท่องเที่ยวหลายแสนคนต้องติดค้างอยู่ต่างประเทศ และคาดว่าจะนำไปสู่ภารกิจพาคนกลับบ้านครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เมืองผู้ดีในยุคหลังสงคราม




โทมัส คุก ซึ่งดำเนินกิจการมานานถึง 178 ปี เผชิญปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างหนัก และประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจำเป็นต้องได้เงินลงทุนเพิ่มอีก 200 ล้านปอนด์เพื่อความอยู่รอด

“แม้จะพยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว แต่การเจรจาไม่อาจนำไปสู่ข้อตกลงระหว่างผู้ถือหุ้นกับผู้ปล่อยกู้รายใหม่ๆ” คำแถลงจากบริษัทระบุ “คณะผู้บริหารจึงสรุปว่า ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย โดยมีผลในทันที”

ปีเตอร์ แฟงค์ฮาวเซอร์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของ โทมัส คุก ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่บริษัทต้องปิดตัวลง เนื่องจากไม่ได้รับแพ็กเกจช่วยเหลือจากผู้ปล่อยกู้

“ผมต้องขออภัยต่อลูกค้าหลายล้านคนของเรา รวมถึงพนักงานหลายพันคน ซัพพลายเออร์ และหุ้นส่วนที่ให้การสนับสนุนเราตลอดหลายปีมานี้” แฟงค์ฮาวเซอร์ ระบุในคำแถลงซึ่งเผยแพร่เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ (23) “ตัวผมและเจ้าหน้าที่บริหารทุกคนรู้สึกเสียใจที่เราไม่ประสบความสำเร็จ”

ก่อนหน้านี้ โฟซัน (Fosun) บริษัทจีนซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดใน โทมัส คุก อยู่แล้วเวลานี้ ได้ตกลงเมื่อเดือนที่แล้วที่จะอัดฉีดเงิน 450 ล้านปอนด์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแพกเกจกู้ภัยเบื้องต้นที่จะต้องใช้เงินจำนวน 900 ล้านปอนด์

เพื่อเป็นการตอบแทน กลุ่มบริษัทการลงทุนจีนซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นฮ่องกงรายนี้ จะได้หุ้น 75% ในฝ่ายดำเนินการด้านทัวร์ของโทมัส คุก และ 25% ในฝ่ายสายการบิน

ภายหลังการประกาศล้มละลายของ โทมัส คุก ทางโฟซันได้แถลงว่า รู้สึกผิดหวังที่ โทมัส คุก ไม่สามารถหาทางออกกับฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องการเพิ่มทุนเพื่อให้ดำเนินงานได้ต่อไป

โทมัส คุก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1841 โดยเริ่มต้นจากการให้บริการรถไฟภายในประเทศ และผ่านพ้นมรสุมจากสงครามโลกทั้ง 2 ครั้งจนกลายมาเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจนำเที่ยวรายแรกของยุโรป

บริษัทแห่งนี้ยังเป็นเจ้าของโรงแรม รีสอร์ต และสายการบินซึ่งให้บริการลูกค้าปีละ 19 ล้านคนใน 16 ประเทศ และเวลานี้ก็มีนักท่องเที่ยวราว 600,000 คนตกค้างอยู่ต่างแดน ซึ่งทำให้รัฐบาลหลายประเทศและบริษัทประกันภัยต้องประสานงานเพื่อช่วยอพยพคนกลับบ้านครั้งใหญ่

โทมัส คุก มีหนี้สินราว 1,700 ล้านปอนด์ และต้องเผชิญการแข่งขันจากธุรกิจออนไลน์ ตลาดท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ทำให้ยอดจองทัวร์ในช่วงฤดูร้อนลดลง

คลื่นความร้อนที่โจมตียุโรปเมื่อปีที่แล้วยังทำให้ลูกค้าของ โทมัส คุก จำนวนมากยกเลิกการจองในนาทีสุดท้าย

การล้มละลายของบริษัทนำเที่ยวยักษ์ใหญ่คาดว่าจะสร้างความสับสนอลหม่านไปทั่วโลก เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวติดค้างอยู่ตามโรงแรมซึ่งยังไม่ได้รับการชำระเงินในหลายประเทศ ตั้งแต่รัฐกัว (Goa) ของอินเดียเรื่อยไปจนถึงแกมเบีย, กรีซ และอื่นๆ ส่วนในระยะยาวก็อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญ เช่น สเปนและตุรกี รวมถึงซัพพลายเออร์น้ำมัน และบริษัททัวร์รายอื่นๆ ของอังกฤษ

องค์การการบินพลเรือนของอังกฤษ (CAA) แถลงว่า การปิดตัวอย่างกะทันหันของ โทมัส คุก ส่งผลให้เที่ยวบินทั้งหมดถูกยกเลิกตามไปด้วย ซึ่ง CAA และรัฐบาลลอนดอนได้เตรียมส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำเพื่อพานักท่องเที่ยวชาวอังกฤษกว่า 150,000 คนกลับบ้านให้ได้ภายใน 2 สัปดาห์

เวลาต่อมาในวันจันทร์ (23) รัฐบาลอังกฤษแถลงว่า ได้ว่าจ้างเครื่องบินเพื่อนำเอานักท่องเที่ยวชาวอังกฤษกลับบ้านแล้ว ในแผนการที่ใช้ชื่อรหัสว่า “ปฏิบัติการ แมตเตอร์ฮอร์น” ซึ่งได้เริ่มต้นขึ้นในทันที

รัฐมนตรีขนส่งของอังกฤษกล่าวว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็น การนำคนกลับบ้านในยามสันติครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยที่ CAA ได้ว่าจ้างเครื่องบินเช่าเหมาลำไว้แล้วหลายสิบลำ

เมื่อ 2 ปีที่แล้ว การล้มละลายของสายการบิน โมนาร์ค แอร์ไลน์ส (Monarch Airlines) ก็ทำให้รัฐบาลอังกฤษต้องใช้เงินภาษีราษฎรถึง 60 ล้านปอนด์ในการเช่าเครื่องบินเพื่อพาผู้โดยสาร 110,000 คนกลับบ้าน

นอกจากเที่ยวบินจะถูกยกเลิกทั้งหมดแล้ว โทมัส คุก ยังต้องปิดบริษัทนำเที่ยวในเครือทั้งหมด ซึ่งทำให้พนักงาน 22,000 คนทั่วโลก รวมถึง 9,000 คนในอังกฤษ กลายเป็นคนตกงานในทันที