เอเจนซีส์ – นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ของแคนาดา ขอโทษกรณีภาพเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นภาพที่ตนแต่งหน้าทาผิวสีดำร่วมงานปาร์ตี้แฟนซีในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ด้านคู่แข่งสำคัญในการเลือกตั้งสุดสูสีที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนหน้า ออกมาโจมตีว่า พฤติกรรมดังกล่าวไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับคนที่จะมาปกครองประเทศ
ภาพทรูโดในวัย 29 ปี แต่งชุดอาละดิน และแต่งหน้าทาผิวเป็นสีดำทั้งตัว ถือเป็นความท้าทายสำคัญของผู้นำแคนาดาที่มักป่าวประกาศเกี่ยวกับความจำเป็นในการต่อสู้กับการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ และมีสมาชิกคณะรัฐมนตรีอย่างน้อย 6 คนที่มีเชื้อสายชาวเอเชียและแอฟริกา
“ผมทุ่มเททำงานมาตลอดชีวิตเพื่อพยายามสร้างโอกาสสำหรับผู้คน ต่อสู้การเหยียดผิวและการมีอคติ ผมยอมรับว่า ตอนหนุ่มๆ เคยทำผิดพลาด ผมควรรู้ดีกว่านั้น แต่เปล่าเลย และตอนนี้ผมตระหนักว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการเหยียดผิว และผมเสียใจมาก"
“สำหรับชุมชนและผู้ที่มีชีวิตอยู่ท่ามกลางอำนาจทับซ้อนและต้องเผชิญการเลือกปฏิบัติ นั่นเป็นสิ่งที่เจ็บปวดอย่างยิ่ง” ทรูโด ที่ขณะนี้อายุ 47 ปี ให้สัมภาษณ์บนเครื่องบินระหว่างเดินทางไปหาเสียงในโนวา สโกเทียเมื่อวันพุธ (18 ก.ย.) หลังจากนิตยสารไทม์เผยแพร่ภาพดังกล่าวโดยระบุว่า ได้มาจากไมเคิล อดัมสัน นักธุรกิจในแวนคูเวอร์ เมื่อต้นเดือน
อดัมสันมีส่วนร่วมในโรงเรียนเอกชน เวสต์ พอยต์ เกรย์ อะคาเดมี ในแวนคูเวอร์ที่ทรูโดทำงานอยู่ในช่วงที่มีการถ่ายภาพนั้น ซึ่งปรากฏอยู่ในหนังสือรุ่นปี 2000-2001 ของโรงเรียนดังกล่าว
ทรูโดที่คว้าชัยชนะถล่มทลายในการเลือกตั้งปี 2015 ยอมรับว่า คนในภาพคือตนเองจริง และเล่าว่า ตนแต่งชุดอะลาดินและแต่งหน้าทาผิวเป็นสีดำทั้งตัวระหว่างการร้องเพลง “เดย์ โอ” ซึ่งเป็นเพลงจาไมกาพูดถึงคนงานที่กำลังขนกล้วยลงเรือ ในงานกาลาดินเนอร์ประจำปีของโรงเรียนซึ่งเป็นปาร์ตี้แฟนซีธีมอาหรับราตรี
ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกมาในช่วงเวลาละเอียดอ่อนอย่างยิ่งทางการเมือง เนื่องจากทรูโดกำลังต่อสู้อย่างสูสีกับ แอนดรูว์ เชียร์ ผู้นำพรรคอนุรักษนิยม ในการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 21 เดือนหน้า
เชียร์ให้สัมภาษณ์ว่า ภาพทรูโดว์ในไทม์ทำให้ตนตกใจและผิดหวังมาก เนื่องจากการแต่งหน้าทาผิวสีดำถือเป็นการเยาะเย้ยและเหยียดเชื้อชาติ
“สิ่งที่ชาวแคนาดาเห็นในวันนี้คือคนที่ขาดวิจารณญาณและความซื่อตรงโดยสิ้นเชิง และเป็นคนที่ไม่เหมาะสมที่จะปกครองประเทศ” เชียร์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในควิเบก
ปัจจุบัน คะแนนนิยมของทรูโดที่เคยโลดลิ่วกลับดิ่งลงจากความผิดพลาดหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงข้อกล่าวหาแทรกแซงทางการเมืองเมื่อต้นปีในคดีติดสินบนของเอสเอ็นซี-ลาวาลิน บริษัทวิศวกรรมยักษ์ใหญ่
เรื่องอื้อฉาวนี้กลายเป็นข่าวเมื่อสมาชิกคณะรัฐมนตรี 2 คนกล่าวหาทรูโดและผู้ช่วยแทรกแซงการดำเนินคดีเอสเอ็นซี-ลาวาลินเพื่อรักษาตำแหน่งงานในประเทศ โดยรัฐมนตรีที่ลาออกเป็นผู้หญิงทั้งคู่ และคนหนึ่งเป็นรัฐมนตรียุติธรรมคนแรกที่สืบเชื้อสายชนพื้นเมือง ซึ่งหลังจากนั้นทั้งคู่ถูกขับออกจากพรรค
ดรามาดังกล่าวทำให้ทรูโดสูญเสียกลุ่มผู้สนับสนุนที่เป็นผู้หญิง รวมทั้งชนพื้นเมือง และหนุ่มสาว ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มคนที่ทำให้เขาได้ชัยชนะเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทั้งนี้ ทรูโดเป็นบุตรชายของอดีตนายกรัฐมนตรีปิแอร์ ทรูโด ที่ได้รับการยกย่องเป็นบิดาของแคนาดาแห่งยุคสมัยใหม่