รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯในวันพุธ(18ก.ย.) ออกคำสั่งเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหญ่ ในขณะที่ซาอุดีอาระเบียเผยหลักฐานเศษโดรนและขีปนาวุธที่พวกเขากล่าวอ้างว่าเตหะรานใช้โจมตีโรงกลั่นน้ำมันเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทรัมป์ไม่ได้ให้คำอธิบายใดๆในถ้อยแถลงออกคำสั่งที่โพสต์สั้นๆบนทวิตเตอร์ แต่จากนั้นได้ย้ำถึงคำกล่าวอ้างของสหรัฐฯที่ว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีซาอุดีอาระเบีย พันธมิตรที่ใกล้ชิดของอเมริกาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา "ผมเพิ่งออกคำสั่งให้กระทรวงการคลังเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน!" เขาเขียน
อย่างไรก็ตามในส่วนของอิหร่านได้ออกมาปฏิเสธอีกครั้งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีเมื่อวันเสาร์(14ก.ย.) ซึ่งโดนโรงงานแปรูปน้ำมันดิบใหญ่ที่สุดของโลกและเบื้องต้นได้กัดเซาะกำลังผลิตของซาอุดีอาระเบียลงกว่าครึ่ง
"พวกเขาต้องการกำหนดมาตรการกดดันอิหร่านขั้นสูงสุดผ่านการใส่ร้าย" ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานีของอิหร่านกล่าว "เราไม่ต้องการความขัดแย้งในภูมิภาค ใครกันเป็นคนเริ่มความขัดแย้ง?" รูฮานีกล่าวโทษวอชิงตันและพันธมิตรอ่าวเปอร์เซียของอเมริกาสำหรับสงครามในเยเมน
ขบวนการเคลื่อนไหวฮูตี พันธมิตรของอิหร่านในเยเมน ซึ่งสู้รบกับพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียที่ได้รับการสนับสนุนของตะวันตก มานานกว่า 4 ปี ออกมาอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีดังกล่าว และบอกว่าพวกเขาใช้โดรนในการจู่โจมโรงกลั่นน้ำมันอารามโก รัฐวิสาหกิจพลังงานของซาอุดีอาระเบีย
อย่างไรก็ตามกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบียเปิดแถลงข่าวในวันพุธ(18ก.ย.) จัดแสดงเศษซากโดรนและขีปนาวุธที่พวกเขาระบุว่าเป็นหลักฐานการรุกรานของอิหร่าน "ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้" โดยทางโฆษกบอกว่ารวมแล้วมีโดรนและขีปนาวุธ 25 เที่ยวที่ถูกใช้ในการโจมตี และการโจมตีดังกล่าวถูกปล่อยมาจากอิหร่าน ไม่ใช่เยเมน
เหตุโจมตีเมื่อวันเสาร์(14ก.ย.) แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของซาอุดีอาระเบียและเป็นการโยนบนทดสอบเข้าใส่สหรัฐฯ ที่ต้องการจำกัดอิทธิพลของอิหร่านในภูมิภาค
ข้อพิสูจน์ที่ชี้ให้เห็นว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลัง อาจกดดันให้ริยาดและวอชิงตันต้องดำเนินการตอบโต้ แม้ทั้งสองประเทศพยายามเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องพินิจพิเคราะห์อย่างระมัดระวัง
ทรัมป์บอกว่าเขาไม่ต้องการทำสงครามและกำลังประสานงานกับประเทศต่างๆในอ่าวเปอร์เซียและยุโรป ส่วนมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงตรัสว่าเหตุโจมตีในแผ่นดินของชาติผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกคือบททดสอบที่แท้จริงต่อความมุ่งมั่นของนานาชาติในการเผชิญหน้ากับการล้มล้างกฎระเบียบโลก
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เข้าเฝ้าฯมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ในเมืองเจดดาห์ในวันพุธ(18ก.ย.) เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤต ก่อนมุ่งหน้าสู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขณะที่เจ้าหน้าที่สหระชาชาติซึ่งมีหน้าที่สังเกตการณ์มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านและเยเมนก็กำลังมุ่งหน้าสู่ซาอุดีอาระเบียเพื่อสืบสวนเช่นกัน ส่วนฝรั่งเศส ซึ่งพยายามกอบกู้ข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างนานาชาติกับอิหร่าน หลังวอชิงตันถอนตัวไปเมื่อปีที่แล้ว บอกว่าพวกเขาต้องการสรุปข้อเท็จจริงต่างๆก่อน ถึงจะมีปฏิกิริยาใดๆออกมา
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯรายหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่าการโจมตีมีแหล่งที่มาจากทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของอิหร่าน ส่วนเจ้าหน้าที่คนอื่นๆอีก 3 รายบอกตรงกันว่าเหตุโจมตีนั้นเกี่ยวข้องกับขีปนาวุธร่อนและโดรน บ่งชี้ว่ามีการใช้อาวุธที่มีความซับซ้อนสูงและล้ำสมัยกว่าที่คิดในเบื้องต้น
อย่างไรก็ตามพวกเจ้าหน้าที่เหล่านั้นไม่ได้มอบหลักฐานหรือให้คำอธิบายใดๆ ว่าหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯใช้หลักฐานหรือเหตุผลใดในการประเมินเหตุโจมตีดังกล่าว ซึ่งกัดเซาะกำลังผลิตน้ำมันโลกลงถึง 5%
ความพยายามของสหรัฐฯที่เรียกร้องให้มีการตอบโต้ในระดับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากรัสเซียและจีนมีอำนาจวีโต้ และคาดหมายกันว่าพวกเขาจะปกป้องอิหร่าน
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ซึ่งในวันอังคาร(17ก.ย.) เสนอขายระบบป้องกันตนเองแก่อิหร่าน ได้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดและเป็นกลาง ระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด
เหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย ได้ซ้ำเติมความสัมพันธ์ที่เสื่อมโทรมอยู่ก่อนแล้วระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่าน หลังจากทรัมป์ถอนอเมริกาออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์และกลับมาคว่ำบาตรเตหะรานอีกรอบ ซึ่งก่อผลกระทบรุนแรงแก่เศรษฐกิจของอิหร่าน ทั้งนี้เตหะรานปฏิเสธหวนคืนสู่โต๊ะเจรจากับวอชิงตัน จนกว่าสหรัฐฯจะกลับเข้าสู่ข้อตกลงนิวเคลียร์
ทรัมป์เผยว่าเขาไม่ได้เล็งที่จะพบปะพูดคุยกับ รูฮานี ระหว่างร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติที่นิวยอร์กในเดือนนี้ ขณะที่ รูฮานีและรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านเองก็อาจไม่ได้เข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็น จนกว่าจะออกวีซ่าเข้าสหรัฐฯในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า