เอเจนซีส์ – “บอริส จอห์นสัน” หารืออียูไม่คืบหน้า กลับบ้านมือเปล่า แถมหนีแถลงข่าวหลังเจอผู้ประท้วง แต่เจ้าตัวกลับบอกมีความคืบหน้าจากการเดินทางไปพบประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเป็นครั้งแรกนับจากเข้ารับตำแหน่ง ทว่าบรรดาผู้นำอียูกลับพูดตรงกันว่าจอห์นสันไม่มีข้อเสนอใหม่มาเจรจา และเรียกร้องนายกรัฐมนตรีอังกฤษให้หยุดพูดแล้วลงมือทำ
ก่อนออกเดินทางไปลักเซมเบิร์กเมื่อวันจันทร์ (16 ก.ย.) นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ เปรียบเทียบตัวเองกับ “ฮัลค์” ยักษ์เขียวจอมพลัง แต่เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านเบร็กซิตที่ไปชุมนุมส่งเสียงอื้ออึงหน้าสำนักนายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์ก จอห์นสันกลับยกเลิกการแถลงข่าว ปล่อยให้นายกรัฐมนตรี ซาเวียร์ เบตเทล ของลักเซมเบิร์ก ตอบคำถามเพียงลำพัง
ระหว่างการแถลงข่าว เบตเทลที่มีท่าทางโกรธอย่างเห็นได้ชัด ได้เตือนจอห์นสันว่า ถึงเวลาที่จะต้องหยุดพูดและลงมือทำ และสำทับว่าอังกฤษยังไม่มีแผนการใหม่ในการฟื้นข้อตกลงเบร็กซิตหรือการถอนตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) ที่น่าเชื่อถือมานำเสนอ
หลังจากหารือช่วงสั้นๆ กับผู้นำอังกฤษ เบตเทลตรงดิ่งไปปารีสเพื่อหารือกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง พร้อมเตือนว่า ผู้นำอียูจะไม่เลื่อนเส้นตายเบร็กซิตในวันที่ 31 เดือนหน้า หากลอนดอนไม่มีข้อเสนอเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้พิจารณาในเร็วๆ นี้
ทางด้านจอห์นสันให้สัมภาษณ์สั้นๆ ในที่พักเอกอัครราชทูตอังกฤษที่อยู่ไม่ไกลกันนัก โดยอ้างว่า ที่ยกเลิกการแถลงข่าวเนื่องจากคิดว่าจะถูกเสียงของผู้ประท้วงกลบหมด พร้อมยืนยันว่าจะไม่ขอเลื่อน แต่จะเดินหน้าเบร็กซิตตามกำหนดไม่ว่าจะมีข้อตกลงหรือไม่ก็ตาม แม้รัฐสภาอังกฤษผ่านกฎหมายห้ามจอห์นสันกระทำการดังกล่าว เว้นแต่บรรลุข้อตกลงใหม่กับอียูได้เสียก่อน
ทั้งภาคธุรกิจและฝ่ายต่อต้านเบร็กซิตต่างมองว่าการถอนตัวโดยไม่มีข้อตกลงจะทำให้เศรษฐกิจปั่นป่วนวุ่นวาย เนื่องจากความสัมพันธ์ทางการค้ากับอียูที่ดำเนินมาถึง 46 ปีจะสิ้นสุดลง
จอห์นสันยังสำทับว่า การดำเนินการมีความคืบหน้าโดยขณะนี้สามารถตกลงกันได้กับอียูว่า ไมเคิล บาร์นิเยร์ และสตีฟ บาร์เคลย์ ตัวแทนเจรจาและรัฐมนตรีเบร็กซิตของอังกฤษ จะหารือต่อกับฌอง-โคลด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ทั้งยังบอกอีกว่า อังกฤษจะไม่ตกลง หากข้อตกลงถอนตัวครอบคลุมนโยบาย “แบ็กสต็อป” ซึ่งกำหนดให้สหราชอาณาจักรคงอยู่ในสหภาพศุลกากรอียูต่อไปชั่วคราว
ทว่าจุงเกอร์ที่ประชุมกับจอห์นสันระหว่างมื้อเที่ยงวันจันทร์ ซึ่งเป็นการพบกันครั้งแรกนับจากที่จอห์นสันเข้ารับตำแหน่งผู้นำอังกฤษนั้น กลับเผยว่าอังกฤษยังคงไม่มีทางเลือกที่เป็นไปได้ที่จะใช้แทนแบ็กสต็อปมาเสนอ และสัปดาห์นี้รัฐสภายุโรปจะโหวตญัตติคัดค้านข้อเรียกร้องของจอห์นสันให้ตัดส่วนแบ็กสต็อปออกจากข้อตกลง
“แบ็กสต็อป” คือนโยบายที่บรรจุอยู่ในข้อตกลงเบร็กซิตฉบับเดิมของอดีตนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ที่ถูกสภาอังกฤษคว่ำถึง 3 ครั้งและทำให้เมย์ตัดสินใจลาออก โดยนโยบายนี้ต้องการรับประกันว่า พรมแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือของสหราชอาณาจักรกับไอร์แลนด์ของอียูจะยังเปิดต่อไปตามเดิม
ผู้สนับสนุนเบร็กซิตคัดค้านแบ็กสต็อปเนื่องจากจะทำให้สหราชอาณาจักรต้องอยู่ภายใต้กฎการค้าของอียู ซึ่งจะจำกัดความสามารถของลอนดอนในการทำข้อตกลงการค้าใหม่ๆ กับประเทศทั่วโลกภายหลังเบร็กซิต
อังกฤษเสนอให้ใช้ข้อตกลงทางเลือกที่ผสมผสานระหว่างการใช้เทคโนโลยีแทนการตรวจสอบที่จุดผ่านแดน กับพื้นที่ร่วมสำหรับสินค้าเกษตรและสัตว์ครอบคลุมเกาะไอร์แลนด์ทั้งหมด ทั้งนี้ ข้อตกลงใหม่ต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้นำ 27 ชาติของอียูและสภายุโรป โดยจอห์นสันนั้นหวังว่า จะบรรลุข้อตกลงได้ในระหว่างการประชุมสุดยอดอียูในวันที่ 17-18 เดือนหน้า เพื่อให้อังกฤษถอนตัวอย่างเป็นระบบ
ขณะเดียวกัน ในวันอังคาร (17 ก.ย.) ศาลฎีกาของอังกฤษจะวินิจฉัยว่า การตัดสินใจของจอห์นสันให้พักการประชุมสภา 5 สัปดาห์จนถึงวันที่ 14 ตุลาคมถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลฎีกาของสก็อตแลนด์ตัดสินว่า การดำเนินการดังกล่าวผิดกฎหมายเนื่องจากมีเจตนาขัดขวางไม่ให้สภาอภิปรายเกี่ยวกับเบร็กซิต อย่างไรก็ดี ศาลสูงในลอนดอนกลับวินิจฉัยว่า เรื่องนี้ไม่อยู่ในดุลวินิจฉัยของศาล ทั้งนี้ หากศาลฎีกาอังกฤษสั่งยกเลิกการปิดประชุม สมาชิกรัฐสภาจะสามารถเปิดประชุมอีกครั้งอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า