รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันพุ่งแรงในวันจันทร์ (16 ก.ย.) โดยสัญญาเบรนต์ทำสถิติปิดบวกวันเดียวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตลาดขานรับเหตุโดรนโจมตีคลังปิโตรเลียมของซาอุดีอาระเบีย สถานการณ์ความตึงเครียดดังกล่าวฉุดวอลล์สตรีทปิดลบ แม้ช่วยดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่ทองคำก็ดีดตัวแรงเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 8.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 62.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 8.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งของบริษัทอารามโก (Aramco) รัฐวิสาหกิจน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุดีอาระเบีย หลังถูกโดรนไม่ทราบฝ่ายโจมตีเมื่อช่วงเช้ามืดเมื่อวันอาทิตย์ (15 ก.ย.) ก่อนต่อมากลุ่มกบฎฮูตีในเยเมนที่มีอิหร่านหนุนหลัง ประกาศตัวว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ (16 ก.ย.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ บอกว่ามีความเป็นไปได้อย่างสูงที่ อิหร่าน จะอยู่เบื้องหลังการโจมตี แต่บอกว่าเขาจะไม่เร่งรีบตอบโต้ และบอกว่ายังอยู่ระหว่างค้นหาคำตอบอย่างชัดเจนว่าใครอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีนี้กันแน่
ในส่วนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯ เช่น ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ และ ริค เพอร์รี รัฐมนตรีพลังงาน รวมถึงเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบีย ได้กล่าวโทษไปที่อิหร่านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทางอิหร่านปฏิเสธคำกล่าวหา โดยประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี บอกว่ามันเป็นการโจมตีที่ลงมือโดยประชาชนชาวเยเมน เพื่อตอบโต้การโจมตีในเยเมนของพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ในสงครามที่ยืดเยื้อมากว่า 4 ปี พร้อมกับชี้ว่าวอชิงตันกำลังหาข้ออ้างเพื่อโจมตีประเทศของเขา
ทรัมป์บอกว่าสหรัฐฯ มีทางเลือกมากมายในการตอบโต้ แต่ปฏิเสธเผยว่าเขากำลังพิจารณามาตรการใดบ้าง พร้อมระบุอเมริกาอาจช่วยปกป้องริยาด แต่ก็ยังไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาอย่างเป็นรูปธรรม
เบื้องต้นเหตุโจมตีครั้งนี้ซึ่งทำให้ผลผลิตน้ำมันของซาอุดีฯ ขาดหายไปทันที 50% หรือเท่ากับ 5% ของปริมาณการผลิตทั่วโลก ก่อแนวโน้มว่าจะฉุดตลาดหุ้นโลกดิ่งสู่แนวลบ และในวันจันทร์ (16 ก.ย.) วอลล์สตรีทก็ดิ่งลงตามคาดจากความกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าว แม้หุ้นกลุ่มพลังงานจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานก็ตาม
ดาวโจนส์ ลดลง 142.70 จุด (0.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 27,076.82 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 9.43 จุด (0.31 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,997.96 จุด แนสแดค ลดลง 23.17 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,153.54 จุด
หุ้นภาคพลังงาน หนึ่งในกลุ่มที่มีผลงานย่ำแย่ที่สุดในปีนี้ พุ่งขึ้นถุึง 3.15% ถือเป็นการปรับขึ้นวันเดียวดีที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม หลังราคาน้ำมันทะยานอย่างแรง โดยุห้นอาปาเช คอร์ป, มาราธอนออย คอร์ป และเฮสส์ คอร์ป ต่างปิดบวกระหว่าง 10% ถึง13%
ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์ (16 ก.ย.) พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ หลังเหตุโจมตีคลังน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยทองคำสัญญาโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 12 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,511.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์