xs
xsm
sm
md
lg

'ทรัมป์'ลั่น'ล็อกเป้า'ตัวการถล่มซาอุฯ อิหร่านประกาศพร้อมทำสงครามเต็มที่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ภาพที่ได้รับจากรัฐบาลสหรัฐฯและ “ดิจิตอลโกลบ” บริษัทให้บริการภาพถ่ายจากดาวเทียม เมื่อวันอาทิตย์ (15 ก.ย.)  แสดงให้เห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโรงกลั่นน้ำมันและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ภายในบ่อน้ำมัน “คูไรส์” ของซาอุดีอาระเบีย  ทั้งนี้โรงกลั่นน้ำมันที่นี่และอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศเช่นกัน ได้ถูกโจมตีจาก “โดรน” หรือไม่ก็ “ขีปนาวุธ” จนได้รับความเสียหายหนัก เป็นเหตุให้ซาอุดีฯผลิตน้ำมันได้ลดลงถึงราวครึ่งหนึ่ง หรือเท่ากับกว่า 5% ของผลผลิตจากทั่วโลก  เรื่องนี้ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งพรวด
เอเจนซีส์ - ทรัมป์ประกาศลั่น “ล็อกเป้าโหลดกระสุน” แล้ว เพื่อตอบโต้เล่นงานตัวการเข้าโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งของซาอุดีอาระเบีย ที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งกระฉูดเฉียด 20% ภายหลังเจ้าหน้าที่อาวุโสสหรัฐฯอ้างมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของอิหร่าน ขณะที่ฝ่ายเตหะรานตอบโต้ว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้ไม่มีหลักฐาน และประกาศพร้อมทำสงครามเต็มรูปแบบ แถมเตือนว่าฐานทัพและเรือบรรทุกเครื่องบินทั้งหมดของอเมริกาที่อยู่ในรัศมี 2,000 กิโลเมตรรอบอิหร่าน อยู่ภายในระยะการโจมตีของขีปนาวุธของตน ทางด้านจีนเรียกร้องทุกฝ่ายอดกลั้น ชี้การกล่าวหาลอยๆ เป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ เช่นเดียวกับรัสเซียซึ่งเตือนว่าอย่าแสดงปฏิกิริยาตอบโต้อย่างใจร้อน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ทวิตเมื่อวันอาทิตย์ (15 ก.ย.) ว่า มีเหตุผลให้เชื่อได้ว่า อเมริการู้ตัวผู้ก่อเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันใหญ่ 2 แห่งในซาอุดีอาระเบียเมื่อวันเสาร์ (14) แล้ว และพร้อมโจมตีตอบโต้ แต่จะรอการพิสูจน์ยืนยัน รวมถึงรอฟังความคิดเห็นของกรุงริยาดด้วย

นับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่า อเมริกาอาจตอบโต้ทางทหารต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทำให้ผลผลิตน้ำมันของซาอุดีฯ ขาดหายไปทันที 50% หรือเท่ากับ 5% ของปริมาณการผลิตทั่วโลก ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดเอเชียช่วงเช้าวันจันทร์ (16) ดีดขึ้นกว่า 19% ก่อนขยับลงมาในระดับสูงขึ้น 10% จากราคาปิดวันก่อน

นอกจากนั้น ทรัมป์ยังประกาศอนุญาตให้นำน้ำมันจากคลังสำรองยุทธศาสตร์ออกมาใช้หากจำเป็น เช่นเดียวกับซาอุดีอาระเบีย ที่ประกาศเรื่องนี้ก่อนหน้านี้

ในวันอาทิตย์ก่อนที่ทรัมป์จะทวิตข้อความดังกล่าว เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ ที่ไม่ประสงค์เปิดเผยตัวตนคนหนึ่งบอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า มีหลักฐานว่า อิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีเมื่อวันเสาร์ เช่น หลักฐานส่วนหนึ่งที่บ่งชี้ว่า ต้นทางการโจมตีคราวนี้ มาจากทางตะวันตกหรือตะวันตกเฉียงเหนือ ไม่ใช่จากเยเมนที่อยู่ทางใต้ นอกจากนั้นยังพบสัญญาณระบุว่า อาวุธที่ใช้ในการโจมตีคือขีปนาวุธ ไม่ใช่โดรน 10 ลำอย่างที่กลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน ซึ่งเป็นพันธมิตรของเตหะราน ออกมาระบุอ้างความรับผิดชอบ

ทว่า อับบาส มูซาวี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านปฏิเสธว่า ข้อกล่าวหาลอยๆ ของวอชิงตันเช่นนี้ไร้แก่นสารและไร้ความรับผิดชอบ หากแต่ต้องการทำลายชื่อเสียงของอิหร่าน รวมทั้งใช้เป็นข้ออ้างในการดำเนินการอื่นๆ ในอนาคต

ส่วน อมิราลี ฮาจิซาเดห์ ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน เตือนว่า เตหะรานพร้อมทำสงครามเต็มรูปแบบ และเตือนว่า ฐานทัพและเรือบรรทุกเครื่องบินทั้งหมดของอเมริกาที่อยู่ในรัศมี 2,000 กิโลเมตรรอบอิหร่าน อยู่ภายในระยะการโจมตีของขีปนาวุธของตน
ภาพที่ได้รับจากรัฐบาลสหรัฐฯและ “ดิจิตอลโกลบ” บริษัทให้บริการภาพถ่ายจากดาวเทียม เมื่อวันอาทิตย์ (15 ก.ย.)  แสดงให้เห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโรงกลั่นน้ำมันและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ภายในบ่อน้ำมัน “คูไรส์” ของซาอุดีอาระเบีย  ทั้งนี้โรงกลั่นน้ำมันที่นี่และอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศเช่นกัน ได้ถูกโจมตีจาก “โดรน” หรือไม่ก็ “ขีปนาวุธ” จนได้รับความเสียหายหนัก เป็นเหตุให้ซาอุดีฯผลิตน้ำมันได้ลดลงถึงราวครึ่งหนึ่ง หรือเท่ากับกว่า 5% ของผลผลิตจากทั่วโลก  เรื่องนี้ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งพรวด
ด้านริยาดที่เคยกล่าวหาว่า อิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีสถานีสูบน้ำมันและแหล่งน้ำมัน รวมถึงเรือบรรทุกน้ำมันของตนหลายครั้งก่อนหน้านี้ เวลานี้ยังไม่ได้กล่าวหาว่า ใครเป็นคนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันเมื่อวันเสาร์ แต่มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ตรัสว่า ซาอุดีฯพร้อมและสามารถตอบโต้การรุกรานของผู้ก่อการร้าย

อย่างไรก็ดี เจมส์ ดอร์ซีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านตะวันออกกลางจาก วิทยาลัยการระหว่างประเทศศึกษา เอส. ราชารัตนัม ในสิงคโปร์ เชื่อว่า จะไม่มีการโจมตีแหล่งน้ำมันอิหร่าน เนื่องจากซาอุดีฯ ไม่ต้องการเปิดศึกกับอิหร่านโดยตรง แต่ต้องการให้ประเทศอื่นรบแทน ซึ่งประเทศเหล่านั้นยังคงลังเลที่จะจัดการให้

ก่อนหน้านี้สื่ออิรักบางแห่งรายงานว่า ต้นทางการโจมตีซาอุดีฯอยู่ในอิรัก ทว่า ทางการแบกแดดออกมาปฏิเสธเมื่อวันอาทิตย์และประกาศว่า จะลงโทษใครก็ตามที่ใช้อิรักเป็นฐานการโจมตีดังกล่าว

ขณะเดียวกัน คูเวตที่อยู่ติดกับอิรัก เผยว่า กำลังประสานงานกับซาอุดีฯ และประเทศอื่นๆ เพื่อตรวจสอบกรณีที่มีโดรนลำหนึ่งบินผ่านน่านฟ้า

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ได้แถลงประณามการโจมตีเมื่อวันเสาร์ และเรียกร้องทุกฝ่ายให้ใช้ความอดกลั้นและป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลาม ขณะที่สหภาพยุโรปเตือนว่า การโจมตีเป็นการคุกคามอย่างแท้จริงต่อความมั่นคงในตะวันออกกลาง

ในวันจันทร์ หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบและอดกลั้น และคัดค้านการกระทำใดๆ ก็ตามที่จะทำให้สถานการณ์ลุกลาม โฆษกผู้นี้ยังสำทับว่า การกล่าวหาผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีซาอุดีฯ โดยไม่มีหลักฐานเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นการพาดพิงโดยตรงถึงอเมริกาที่กล่าวหาอิหร่าน

สำหรับ ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลิน แถลงในวันเดียวกันว่า รัสเซียเรียกร้องให้ทุกประเทศหลีกเลี่ยงการด่วนสรุปหรือรีบร้อนดำเนินการใดๆ ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์บานปลายออกไป

เหตุการณ์ล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากต้นสัปดาห์ที่แล้ว ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่า ทรัมป์พร้อมพบกับประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานีของอิหร่านโดยไม่มีเงื่อนไข

กระนั้น เมื่อวันอาทิตย์ ประมุขทำเนียบขาวบอกปัดว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง

นอกจากนี้ในวันจันทร์ มูซาวียังยืนยันว่า รูฮานีไม่มีแผนพบทรัมป์ระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นที่นิวยอร์กในสัปดาห์หน้า และย้ำว่า อเมริกาต้องกลับไปเข้าร่วมข้อตกลงนิวเคลียร์ และยกเลิกมาตรการแซงก์ชันอิหร่านก่อนเท่านั้นจึงจะมีการฟื้นการหารือกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น