เอเอฟพี - โจชัว หว่อง แกนนำนักเคลื่อนไหวชาวฮ่องกง เรียกร้องวานนี้ (13 ก.ย.) ให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เพิ่มเงื่อนไขว่าด้วยเรื่องสิทธิมนุษยชนลงในข้อตกลงการค้ากับจีน และขอให้วอชิงตันช่วยสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง
ระหว่างปาฐกถาที่นครนิวยอร์ก หว่อง ได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสสหรัฐฯ ออกออกกฎหมายสนับสนุนขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยฮ่องกง
“การเพิ่มเงื่อนไขเรื่องสิทธิมนุษยชนลงในข้อตกลงการค้า และหยิบยกเรื่องการชุมนุมประท้วงของชาวฮ่องกงมาเป็นวาระสำคัญในการเจรจา คือสิ่งสำคัญมาก” หว่อง ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
จีนและสหรัฐฯ ทำสงครามการค้ากันมานานกว่า 1 ปี และเวลานี้มาตรการรีดภาษีตอบโต้ได้ครอบคลุมสินค้าเป็นมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์
การเจรจาการค้ารอบใหม่มีกำหนดจัดขึ้นในช่วงเดือน ต.ค.
หว่อง ชี้ว่า สถานการณ์ในฮ่องกงควรถูกยกให้เป็นตัวแปรสำคัญในการเจรจาการค้า และย้ำว่าชาวฮ่องกงกำลังเสี่ยงโดยคุกคามด้วยกฎหมายฉุกเฉิน “ซึ่งไม่ต่างอะไรกับกฎอัยการศึก” และรัฐบาลจีนอาจตัดสินใจส่งทหารเข้ามายังเกาะกึ่งปกครองตนเองแห่งนี้ในที่สุด
“ถ้าจีนไม่คิดที่จะปกป้องเสรีภาพทางเศรษฐกิจและความเปิดกว้างทางธุรกิจในฮ่องกง เศรษฐกิจโลกโดยรวมก็จะได้รับผลกระทบด้วย” เขากล่าว
นักเคลื่อนไหวหนุ่มวัย 22 ปี ออกเดินทางต่อไปยังสหรัฐฯ หลังเดินสายพบปะนักการเมืองในเยอรมนีเมื่อไม่กี่วันก่อน ในความพยายามกระตุ้นให้นานาชาติหันมาใส่ใจและสนับสนุนการชุมนุมประท้วงในฮ่องกง ซึ่งส่งผลให้เกาะศูนย์กลางการเงินแห่งนี้ตกอยู่ในภาวะกึ่งอัมพาตมานานหลายเดือน
ชาวฮ่องกงนับล้านๆ คนออกมาเคลื่อนไหวบนท้องถนนตลอดช่วง14 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดต่อรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ที่ได้รับมอบเกาะฮ่องกงคืนจากอังกฤษเมื่อปี 1997
จีนได้เรียกทูตเยอรมันประจำกรุงปักกิ่งเข้าพบเมื่อวันพุธ (11) เพื่อแสดงความไม่พอใจกรณีที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ไฮไค มาส ยอมพบปะกับ โจชัว หว่อง ที่กรุงเบอร์ลิน โดยเตือนว่าพฤติกรรมดังกล่าวอาจทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
หว่อง ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมของสภาคองเกรสเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกงปี 2019 (Hong Kong Human Rights and Democracy Act of 2019) ในวันอังคารที่จะถึงนี้ (17) และยังมีกำหนดพบปะกับ มาร์โก รูบิโอ วุฒิสมาชิกรีพับลิกันซึ่งเป็นผู้เสนอร่างกฎหมายดังกล่าว แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีโอกาสได้พบเจ้าหน้าที่ในรัฐบาล ทรัมป์ หรือไม่
หว่อง เรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งคาดว่าจะบั่นทอนสิทธิพิเศษทางการค้าที่ฮ่องกงได้รับจากสหรัฐฯ เพราะจะนำไปสู่การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอว่า ทางการฮ่องกงเคารพกฎหมายพื้นฐาน (Basic Law) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความเป็นเขตกึ่งปกครองตนเองหรือไม่
ผู้ประท้วงฮ่องกงเริ่มหันหน้าขอความช่วยเหลือจากวอชิงตันมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และเมื่อวันอาทิตย์ (8) ก็มีผู้ชุมนุมหลายพันคนเดินขบวนไปที่หน้าสถานกงสุลสหรัฐฯ และโบกสะบัดธงชาติเมริกัน
จีนมักจะอ้างว่ามี “พลังอำนาจภายนอก” โดยเฉพาะสหรัฐฯ คอยสนับสนุนการก่อจลาจลในฮ่องกง ซึ่งอเมริกาและรัฐบาลตะวันตกล้วนแต่ปฏิเสธ
หว่อง ได้บรรยายให้นักศึกษามหาวิทยาลัยโคลัมเบียประมาณ 200 คนฟังว่า วัตถุประสงค์ในการเดินทางมาสหรัฐฯ ของเขาก็เพื่อให้ประชาคมโลก “หันมาสนใจฮ่องกง”
เขาประกาศกร้าวว่า “ฤดูร้อนแห่งความคับแค้นใจ กำลังจะกลายเป็นปีแห่งความคับแค้นใจ” ซึ่งสื่อความหมายว่า ผู้ประท้วงฮ่องกงจะไม่ยุติการต่อสู้จนกว่าจะได้มาซึ่งการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม ตามสัญญาที่ถูกระบุไว้ในข้อตกลงส่งคืนฮ่องกงระหว่างอังกฤษกับจีน