อิหร่านชี้ปลด “โบลตัน” ไม่ช่วยให้อิหร่านยอมเจรจา หากมะกันยังไม่หยุดคว่ำบาตร

เอเจนซีส์ - อิหร่านระบุในวันพุธ (11 ก.ย.) ว่าการพ้นจากตำแหน่งของ จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ผู้ที่เน้นแนวทางสายเหยี่ยวต่ออิหร่าน จะไม่นำไปสู่การเจรจาระหว่างวอชิงตันและเตหะราน

ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุตินโยบาย "กดดันสูงสุด" ต่อประเทศของเขา และบอกด้วยว่า เตหะรานจะลดภาระผูกพันของตนต่อข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 หากจำเป็น

เมื่อปีที่แล้ว อเมริกาถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งอิหร่านได้ตกลงที่จะระงับโครงการปรมาณูเพื่อแลกเปลี่ยนกับด้านการค้า ตั้งแต่นั้นมาวอชิงตันได้กำหนดสิ่งที่เรียกว่านโยบาย "กดดันสูงสุด" รวมถึงการคว่ำบาตรที่มีวัตถุประสงค์เพื่อหยุดการส่งออกน้ำมันอิหร่านทั้งหมด

อิหร่านตอบโต้ด้วยขั้นตอนต่างๆ โดยลดการทำตามข้อตกลงนิวเคลียร์ แม้จะบอกว่าอยากให้ข้อตกลงยังคงอยู่ก็ตาม

ทรัมป์บอกว่าเขายินดีที่จะเจรจากับอิหร่านเพื่อให้ได้ข้อตกลงใหม่ แต่อิหร่านได้กล่าวมานานแล้วว่า การเปิดเจรจานั้นเป็นไปไม่ได้ เว้นแต่วอชิงตันจะยกเลิกการคว่ำบาตร

โบลตัน ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งระดับสูงในรัฐบาล จอร์จ ดับเบิลยู. บุช พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันอังคาร โดยทรัมป์ระบุทางทวิตเตอร์ว่า เขาไล่โบลตันออกไปหลังจากปฏิเสธคำแนะนำของเขา

“การจากไปของ จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ จากการบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ผลักดันอิหร่านให้พิจารณาหารือกับอเมริกาอีกครั้ง” สำนักข่าว IRNA ของทางการอิหร่าน รายงานคำพูดของทูตอิหร่านประจำสหประชาชาติ มาจิด ทัคเทราวานชี

เขาบอกอีกว่า ไม่มีที่ว่างสำหรับพูดคุยกับสหรัฐอเมริกา ในขณะที่การคว่ำบาตรอิหร่านยังคงอยู่

รูฮานี ผู้ชนะการเลือกตั้งถล่มทลายสองครั้งในอิหร่านและสัญญาว่าจะเปิดประเทศขึ้นสู่โลก ได้ย้ำคำเดิมที่เคยเรียกร้องไว้ก่อนหน้านี้ ให้วอชิงตันคลายนโยบาย

“อเมริกาควรเข้าใจว่าการทำสงครามไม่สร้างผลกำไร และต้องละทิ้งนโยบายที่กดดันสูงสุดต่ออิหร่าน”