xs
xsm
sm
md
lg

‘คอลัมน์นอกหน้าต่าง : “แจ็ก หม่า” อำลาตำแหน่ง ‘ประธานอาลีบาบา’ อังคารนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

แจ็ก หม่า ประธานของอาลีบาบา ขณะไปพูดที่งาน “วิวาเทค” ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2019  ทั้งนี้เขาจะก้าวลงจากตำแหน่งบริหารในกลุ่มกิจการค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ที่เขาร่วมก่อตั้งขึ้น ในวันอังคาร (10 ก.ย.) นี้
แจ็ก หม่า กำหนดก้าวลงจากตำแหน่งประธานของอาลีบาบา ในวันอังคาร (10 ก.ย.) นี้ ทว่ากิจการสตาร์ตอัปที่เขาสร้างขึ้นมาจนกลายเป็นมหายักษ์ใหญ่ค้าปลีกออนไลน์ในปัจจุบัน ได้รับการคาดหมายว่าจะยังคงเจริญเติบโตก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ต่อไปได้ดี ทั้งนี้ต้องขอบคุณวัฒนธรรมบริษัทที่เน้นหนักนวัตกรรม ซึ่งตัวเขามีส่วนฟูมฟักบ่มเพาะ

อดีตอาจารย์สอนภาษาอังกฤษผู้นี้ มักแสดงให้เห็นภาพลักษณ์ขี้เล่นร่าเริง ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับภาพเหมารวมของพวกผู้บริหารชาวจีนในความเข้าใจของคนทั่วไป ที่จะต้องเคร่งขรึมไร้สีสัน แต่เมื่อ 1 ปีก่อน เขาประกาศอย่างจริงจังแน่วแน่ว่า ในวันอังคาร (10) อันเป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 55 ปีของเขา เขาจะก้าวลงจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

หม่าวางแผนจะนำเอาทรัพย์สมบัติที่มีมากมายมหาศาลของเขา (ตามตัวเลข ณ วันที่ 8 กันยายน 2019 ในเว็บไซต์ของนิตยสารฟอร์บส์ หม่ามีทรัพย์สิน 38,400 ล้านดอลลาร์ เป็นอภิมหาเศรษฐีอันดับที่ 21 ของโลก และเป็นหนึ่งในผู้มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดของจีน) ไปทำโครงการริเริ่มต่างๆ ทางด้านการศึกษา ซึ่งถือเป็น “รักแรก” ของเขา นับเป็นการเจริญรอยตามเพื่อนมิตรนักนวัตกรรมด้านเทคผู้หนึ่งที่เขานิยมยกย่อง นั่นคือ บิลล์ เกตส์

ปกติแล้ว การที่ผู้ก่อตั้งมากบารมีถอนตัวออกไปจากพวกบริษัทเทคใหญ่ๆ มักก่อให้เกิดความวิตกกังวล และสั่นคลอนราคาหุ้น แต่ไม่ใช่ในกรณีของอาลีบาบา

การกุมบังเหียนงานด้านปฏิบัติการของกลุ่มบริษัทแห่งนี้ ตั้งแต่เมื่อสองสามปีที่ผ่านมา ก็อยู่ในมือของทีมผู้บริหารซึ่งได้รับความนับถือ และ “เอาอยู่” ในการทำให้อาลีบาบายังสามารถรักษาความเฉียบคมในเรื่องอี-คอมเมิร์ซ ที่มีการแข่งขันสูงมากๆ

ถึงแม้ที่ผ่านมา หม่าก็มีบทบาทโดดเด่นในฐานะที่เป็นทั้งพลังขับดันและบ่อยครั้งก็เป็นทูตผู้คอยสร้างหน้าตาสดใสแปลกใหม่ให้แก่บริษัท ด้วยการสร้างความตื่นตะลึงอย่างเช่นการขึ้นเต้นบนเวทีโดยได้รับแรงบันดาลใจจาก ไมเคิล แจ็กสัน ในงานเฉลิมฉลองของอาลีบาบาเมื่อ 2 ปีก่อน ตลอดจนการเป็นตัวเอกในภาพยนตร์สั้นแนวกำลังภายในของตัวเขาเอง
<i>(ภาพจากแฟ้มถ่ายเมื่อ 8 ก.ย. 2017) แจ็ก หม่า กำลังขึ้นเวทีเต้นในเมดเลย์เพลงของไมเคิล แจ็กสัน ณ งานปาร์ตี้ประจำปีของอาลีบาบา ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน </i>
สร้างมาตรฐานสูงส่งสำหรับบริษัทเทค

เป็นที่คาดหมายกันว่า เขาจะยังคงมีบทบาทหน้าที่ในทางเป็นที่ปรึกษาบางรูปแบบ

กระนั้น การผ่องถ่ายอำนาจหน้าที่บริหารบริษัทไปให้แก่บุคคลเฉกเช่น ซีอีโอ แดเนียล จาง และผู้ร่วมก่อตั้ง/รองประธานกรรมการบริหาร โจเซฟ ไจ้ ซึ่งประกาศออกมาเมื่อปีที่แล้ว ก็น่าจะเป็นการสร้าง “มาตรฐานทองคำ” ให้แก่การเปลี่ยนผ่านอำนาจของพวกบริษัทเทค นี่เป็นความเห็นของ เจฟฟรีย์ ทาวสัน ผู้เป็นทั้งนักลงทุนด้านหลักทรัพย์และอาจารย์ของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง

“เขาทำได้สำเร็จในสิ่งที่ สตีฟ จ็อบส์, บิลล์ เกตส์ และ เจอร์รี หยาง (ผู้ร่วมก่อตั้งยาฮู) ต่างเคยล้มเหลวมาแล้ว ซึ่งก็คือการทำให้พวกเขาเองกลายเป็นคนที่ขาดไปก็ได้” ทาวสัน ซึ่งเขียนหนังสือเอาไว้หลายเล่มว่าด้วยพวกบริษัทชั้นนำของจีน กล่าวให้ความเห็น

เขาสร้างวัฒนธรรมที่เข้มแข็งมากจริงๆ ขึ้นมาที่อาลีอาบา และตอนนี้ผู้คนที่นั่นก็ยังคงสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ กันออกมาอย่างคลั่งไคล้”

หม่าอยู่ในฐานะเป็นเถ้าแก่ชาวจีนที่ขาดแคลนเงินสดคนหนึ่ง เมื่อตอนที่เขาพยายามโน้มน้าวให้เพื่อนๆ ยอมควักเงินทุนราวๆ 60,000 ดอลลาร์ให้เขาเพื่อเริ่มต้นอาลีบาบา ขึ้นในเมืองหางโจว ที่สวยงามและเก่าแก่ทางภาคตะวันออกของจีนเมื่อปี 1999

ด้วยจำนวนผู้ใช้ที่แอฟทีฟมากกว่า 750 ล้านรายต่อเดือนในทุกวันนี้ อาลีบาบามีส่วนช่วยปลดล็อกพลังอำนาจผู้บริโภคอันใหญ่โตมหึมาของประเทศจีน ซึ่งก็สอดคล้องกับวัตถุประสงค์สำคัญประการหนึ่งของรัฐบาลแดนมังกรในเวลานี้ ขณะที่กำลังหาทางกระตุ้นเติมเชื้อเพลิงดีมานด์ความต้องการภายในประเทศ เพื่อลดทอนการต้องพึ่งพาอาศัยการค้าต่างประเทศซึ่งพลิกผันปั่นป่วนมากขึ้นเรื่อยๆ

แพลตฟอร์ม เถาเป่า และ ทีมอลล์ ของอาลีบาบา ได้ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ นับไม่ถ้วนเติบใหญ่ขยายตัว

“(หม่า) เป็นพลังขับดันของการพัฒนาอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตของประเทศจีน เขาคือเจ้าพ่อสำหรับผู้ประกอบการ (ของประทศจีน)” เฉิง ฮว่ายเปา ผู้ผลิตเครื่องเฟอร์นิเจอร์ กล่าวสรรเสริญผู้ก่อตึ้งอาลีบาบาผู้นี้

เฉิง ซึ่งอยู่ในวัย 30 ปี เป็นหนึ่งในนักธุรกิจขนาดเล็กนับล้านๆ คน ที่บ่อยครั้งทีเดียวตั้งกิจการขึ้นมาตาม “หมู่บ้านเถาเป่า” อันหมายถึงชุมชนต่างๆ ที่เศรษฐกิจมุ่งอิงอาศัยตลาดอันใหญ่โตมหึมาของอาลีบาบา พวกเขากระโดดเข้าสู่แวดวงการค้าขายได้ก็สืบเนื่องจากกลุ่มบริษัทยักษ์แห่งนี้

เฉิง เริ่มต้นด้วยการผลิตเตียงนอนแบบสองชั้น เมื่อปี 2010 ในมณฑลเจียงซู ที่อยู่ทางภาคตะวันออกของจีน โดยมีลูกจ้างอยู่ 10 คน ทุกวันนี้กิจการซึ่งก้าวหน้ารุ่งเรืองของเขาว่าจ้างลูกจ้างพนักงาน 100 คน

“ถ้าไม่มีอาจารย์หม่า ผมก็คงจะไม่ได้ออกมา และเริ่มต้นธุรกิจของตัวผมเองหรอก” เฉิงกล่าว
<i>แจ็ก หม่า (ซ้าย) ขณะอภิปรายถกเถียงกับ อีลอน มัสก์ (ขวา) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทเทสลา บนเวทีในงานประชุมปัญญาประดิษฐ์โลก ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อ 29 ส.ค. 2019 </i>
เดินหน้าสร้างนวัตกรรมต่อไปอีก

แน่นอนทีเดียวว่า หม่าและอาลีบาบา ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถูกจี้เจาะด้านลบด้วยเช่นกัน

ทั้งอาลีบาบาและกิจการเลียนแบบรายอื่นๆ ต่างถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการบ่มเพาะแนวความคิดที่มองทุกๆ อย่างเป็นการค้า และแนวความคิดมุ่งเสพวัตถุสิ่งของโดยไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องทางจิตใจ ตลอดจนเป็นตัวการส่งเสริมการขายสินค้าปลอมแปลง

การแสดงความคิดเห็นของหม่าในบางเรื่องบางราว ก็เป็นไปในลักษณะขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เป็นต้นว่า การที่เขาพูดเมื่อเร็วๆ นี้โดยไม่ยอมรู้สึกรู้สาอะไรกับการที่พวกคนงานจีนกำลังต้องทำงานอย่างยาวนานกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ตลอดจนข่าวซึ่งปรากฏออกมาเมื่อปีที่แล้ว ที่ว่าเขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

อย่างไรก็ดี อาลีบาบายังคงขยับขยายระบบนิเวศของตนออกไปเรื่อยๆ โดยกำลังผลักดันเดินหน้าเข้าสู่กิจการด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง, นันทนาการ, และแนวคิด “ค้าปลีกแบบใหม่” --อย่างเช่น การรวมเอากิจการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ เข้ากับร้านค้าจริงๆ ที่ลูกค้าเข้าไปเลือกดูซื้อหาสินค้า ขณะเดียวกัน “อาลีเพย์” หน่วยงานด้านการเงินของกลุ่มบริษัทนี้ ก็เดินหน้าบุกเบิกเรื่องการชำระเงินดิจิตอลไร้เงินสดต่อไป

ถึงแม้อัตราเติบโตของเศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัวลง ขณะที่สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯก็ทำท่ารุนแรงยิ่งขึ้นและยืดเยื้อไปเรื่อยๆ แต่เท่าที่ผ่านมารายรับของอาลีบาบายังคงแข็งแรง

เวลานี้ หม่าได้ก่อตั้งองค์การการกุศล รวมทั้งเปิดตัวแผนการริเริ่มด้านการศึกษาออกมาจำนวนหนึ่ง

เมื่อเดือนที่แล้ว ในรายการสนทนาถกเถียงเรื่องเทคโนโลยี กับ อีลอน มัสก์ ที่นครเซี่ยงไฮ้ เขาได้วิจารณ์ผู้ประกอบการและนักลงทุนด้านเทคที่ถือ 3 สัญชาติ (แอฟริกาใต้, แคนาดา, สหรัฐฯ) ผู้นี้อย่างฉันมิตร ในเรื่องที่ มัสก์ ดูจะคลั่งไคล้ใหลหลงอยู่กับเรื่องการส่งคนขึ้นไปยังดาวอังคาร

“เราจำเป็นต้องมีฮีโร่อย่างเช่นคุณนี่แหละ แต่ว่าเราก็จำเป็นต้องมีฮีโร่ให้มากขึ้นกว่านี้ที่เป็นแบบพวกเราซึ่งกำลังปรับปรุงยกระดับสิ่งต่างๆ บนโลกให้ดีขึ้นไปอีก” หม่า บอก

และนี่ก็ดูจะเป็นการสเก็ตซ์ภาพคร่าวๆ ของสิ่งที่เขาตั้งใจจะทำต่อจากนี้ไป

(เก็บความจากเรื่อง Smooth succession: Jack Ma eases out of a thriving Alibaba ของสำนักข่าวเอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น