รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์ - วอลล์สตรีทในวันพฤหัสบดี(5ก.ย.) พุ่งแรงและทองคำดิ่งลง 34 ดอลลาร์ จากข่าวสหรัฐฯและจีนจะกลับมาเจรจาทางการค้าระดับสูงอีกรอบในเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตามด้วยนักลงทุนบางส่วนไม่เชื่อมั่นว่ามันจะคลี่คลายข้อพิพาทระหว่างสองชาติได้หรือไม่ จึงฉุดราคาน้ำมันปิดในกรอบแคบๆ แม้พบสต๊อกปิโตรเลียมอเมริกาลดลงอย่างมากก็ตาม
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 372.68 จุด (1.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 26,728.15 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 38.22 จุด (1.30 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,976.00 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 139.95 จุด (1.75 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,116.83 จุด
กระทรวงพาณิชย์จีนแถลงในวันพฤหัสบดี(5ก.ย.) ว่าจีนและสหรัฐฯ จะเริ่มต้นการพูดคุยการค้ารอบใหม่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ต้นเดือนตุลาคม สลายความกลัวที่ว่าการลงโทษทางภาษีรอบใหม่จะทำให้การเจรจาอันยืดเยื้อนี้หยุดลง
คำแถลงดังกล่าวมีขึ้นไม่ถึงสัปดาห์หลังจากปักกิ่งและวอชิงตัน ต่างบังคับใช้มาตรการรีดภาษีรอบใหม่เล่นงานอีกฝ่าย โหมกระพือความร้อนระอุของสงครามการค้าที่สั่นคลอนตลาดมานานนับปี
ขณะเดียวกันตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP)ที่เปิดเผยว่าการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯพุ่งขึ้น 195,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม เหนือกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้และเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน
ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯและการหวนคืนสู่โต๊ะเจรจาทางการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง ผลักนักลงทุนเมินสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและฉุดราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(5ก.ย.) ปิดลบวันเดียวคิดเป็นดอลลาร์ หนักหน่วงสุดในรอบเกือบ 3 ปี โดยทองคำสัญญาโคเม็กซ์ ลดลง 34.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,525.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านราคาน้ำมันทรงตัวในวันพฤหัสบดี(5ก.ย.) ได้แรงหนุนจากสต๊อกปิโตรเลียมสหรัฐฯ ซึ่งช่วยทัดทานความกังวลอุปสงค์ชะลอตัว เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนไม่แน่ใจว่าการเจรจาทางการค้ารอบใหม่จะสามารถแก้ไขข้อพิพาทได้หรือไม่
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ ปิดที่ 56.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ ปิดที่ 60.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ(อีไอเอ) เผยแพร่รายงานในวันพฤหัสบดี(5ก.ย.) ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ ลดลง 4.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 30 สิงหาคม ในขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นเหล่านักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล แพลตส์ คาดหมายว่าน่าจะลดลงราวๆ 3 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้แล้วข้อมูลของอีไอเอยังพบด้วยว่าคลังเบนซินสำรองลดลง 2.4 ล้านบาร์เรลและสต๊อกน้ำมันกลั่น ซึ่งประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำความร้อน ลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล
ตลาดน้ำมันดีดตัวขึ้นกว่า 2% หลังอีไอเอเผยแพร่รายงาน แต่จากนั้นราคาน้ำมันก็ค่อยๆอ่อนตัวลง ท่ามกลางความสงสัยต่อแนวโน้มที่จีนและสหรัฐฯจะบรรลุข้อตกลงทางการค้าได้ในเร็ววัน แม้สองชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ๋มีกำหนดกลับมาเจรจากันอีกรอบในเดือนหน้า