รบ.ผู้ดีแบะท่ายอมผ่านกม.ยุติโนดีล เร่ง'เลือกตั้งใหม่'หลังแพ้ซ้ำซากในสภา

เอเจนซีส์ - รัฐบาลนายกฯบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ยอมยุติการเตะถ่วงสภาสูงไม่ให้ผ่านร่างกฎหมายหยุดยั้งเบร็กซิตแบบไม่มีข้อตกลง โดยหวังว่าจะทำให้ฝ่ายค้านยอมสนับสนุนให้จัดการเลือกตั้งใหม่กลางเดือนหน้า ซึ่งอาจจะทำให้ตนได้กลับมาเป็นผู้นำรัฐบาลอีกครั้งและคว่ำกฎหมายขวางโนดีล

ตั้งแต่ตอนเช้าวันพฤหัสบดี (5 ก.ย.) สมาชิกพรรคอนุรักษนิยมซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลผสมของอังกฤษชุดปัจจุบัน ยอมเลิกยุทธวิธีเตะถ่วงในสภาขุนนาง (สภาสูง)ด้วยการเสนอแก้ไขเปลี่ยนแปลงเวอร์ชันต่างๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อหน่วงรั้งร่างกฎหมายห้ามเบร็กซิตแบบโนดีล หรือก็คือการที่อังกฤษจะถอนตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) ถึงแม้ไม่มีข้อตกลงใดๆ กับอียูก็ตามที เอาไว้ ไม่ให้ผ่านสภาขุนนางได้ จนกระทั่งถึงเวลาที่สภาจะปิดประชุมชั่วคราวในวันจันทร์ (9)

รัฐบาลอังกฤษแถลงในเวลาต่อมาว่า ร่างกฎหมายนี้ที่ผ่านความเห็นชอบของสภาสามัญชนหรือสภาล่างไปแล้วด้วยคะแนน 327 ต่อ 299 เสียงเมื่อวันพุธ (4) ซึ่งถือเป็นความปราชัยในสภาคติดต่อกันอีกครั้งของนายกรัฐมนตรีจอห์นสันนั้น น่าจะได้รับอนุมัติจากสภาสูงภายในวันพฤหัสบดี (5) หรือไม่ก็วันศุกร์ (6)

เนื้อหาของร่างกฎหมายห้ามเบร็ตซิตโนดีล ซึ่งเสนอขึ้นโดยบรรดาพรรคฝ่ายค้านและหนุนหลังด้วย พวกส.ส.กบฎของพรรคคอนเซอร์เวทีฟ กำหนดให้จอห์นสันต้องขอให้อียูขยายเส้นตายเบร็กซิตออกไปจากวันที่ 31 ตุลาคมนี้ เป็นเป็น 31 มกราคม 2020 หากภายในวันที่ 19 เดือนหน้า ไม่มีข้อตกลงใหม่ๆ มาเสนอต่อสภา หรือไม่สามารถทำให้สภาเห็นชอบกับข้อตกลงใหม่ๆ ได้

เฮนรี แอชตัน สมาชิกพรรคอนุรักษนิยมในสภาสูงเผยว่า วิปในสภาล่างให้คำมั่นว่า หากร่างกฎหมายผ่านสภาขุนนางโดยมีข้อแก้ไข สภาสามัญชนก็จะรีบพิจารณาร่างแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในวันจันทร์หน้า

เมื่อวันพุธ (3) นอกจากปราชัยในเรื่องร่างกฎหมายห้ามเบร็กซิตโนดีลแล้ว นายกรัฐมนตรีจอห์นสันยังพ่ายแพ้ในความพยายามที่จะผลักดันให้สภาสามัญชนเห็นชอบกับแผนการของเขาที่จะจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดในวันที่ 15 เดือนหน้า

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ มี ส.ส.พรรคอนุรักษนิยมอย่างน้อยกว่า 20 เสียง แสดงท่าทีหนุนการออกกฎหมายห้ามเบร็กซิตแบบโนดีล ซึ่ง จอห์นสันมองว่าคือตัดทอนอำนาจต่อรองของรัฐบาลอังกฤษในการเจรจาต่อรองกดดันอียู เขาจึงแก้เกมด้วยการไล่ ส.ส.กบฎออกจากพรรค และหาทางเร่งจัดการเลือกตั้งกันใหม่โดยเร็ว

ทว่าภายใต้กฎหมายของอังกฤษ ในภาวะเช่นนี้จอห์นสันต้องได้เสียงสนับสนุน 2 ใน 3 ในสภาจึงจะสามารถยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ได้ ปรากฏว่าในวันพุธ ส.ส.พรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านสำคัญที่สุดตลอดจนพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ ได้งดออกเสียงหรือไม่ก็โหวตคัดค้าน ทำให้ผู้นำอังกฤษได้เสียงสนับสนุนรวมแล้วเพียง 298 เสียงสนับสนุน จาก 434 เสียงที่จะต้องได้

ภายหลังการโหวตดังกล่าว จอห์นสันกล่าวหาว่า เจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคแรงงาน เป็นผู้นำฝ่ายค้านคนแรกในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยของอังกฤษที่ปฏิเสธการเชื้อเชิญเลือกตั้ง

ทว่า คอร์บินตอบโต้ว่า เบร็กซิตแบบโนดีลของจอห์นสันกำลังนับถอยหลัง ทั้งยังบอกว่า ผู้นำพรรคอนุรักษนิยมปิดบังความจริงที่ว่า หากอังกฤษถอนตัวจากอียูโดยไม่มีข้อตกลง ก็มีแนวโน้มที่อาจเผชิญภาวะขาดแคลนอาหารและยารักษาโรคได้

ก่อนหน้านี้ คอร์บินระบุว่า แม้ตนก็ปรารถนาให้จัดการเลือกตั้งกันใหม่ แต่ไม่สนับสนุนความเคลื่อนไหวของจอห์นสัน จนกว่าร่างกฎหมายสกัดกั้นเบรกซิตแบบโนดีลจะมีผลบังคับใช้เสียก่อน จากนั้นจึงจะหันมาสนับสนุนการยุบสภาจัดเลือกตั้งใหม่

ฉากทัศน์หรือสมมุติสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้หากอังกฤษจะจัดการการเลือกตั้งก่อนกำหนดในเวลานี้ เห็นกันว่ามีอยู่ด้วยกัน 3 ทางคือ เกิดรัฐบาลที่สนับสนุนเบร็กซิตภายใต้การนำของจอห์นสัน, รัฐบาลภายใต้การนำของคอร์บินที่สัญญาว่าจะจัดให้มีการลงประชามติใหม่เพื่อตัดสินว่าอังกฤษจะเป็นสมาชิกอียูต่อไปตามเดิมหรือไม่, และสภาที่ไม่มีพรรคไหนครองเสียงข้างมาก จึงต้องจัดตั้งรัฐบาลผสมหรือรัฐบาลเสียงข้างน้อย

ขณะที่สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ไม่มีผลสำรวจความคิดเห็นจากสำนักใดบ่งชี้ว่า พรรคอนุรักษนิยมจะได้คะแนนเสียงข้างมาก ซึ่งจะทำให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลและยกเลิกอุปสรรคใดๆ ก็ตามที่ขัดขวางการถอนตัวออกจากอียู รวมทั้งการล้มกฎหมายขัดขวางเบร็กซิตแบบโนดีลด้วย

นอกจากนั้น ถึงแม้จอห์นสันที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 6 สัปดาห์ อ้างว่า มีความคืบหน้าอย่างมากในการเจรจาเกี่ยวกับร่างองค์ประกอบใหม่ในข้อตกลงเบร็กซิต

ทว่า ไมเคิล บาร์นิเอร์ หัวหน้าคณะเจรจาเบร็กซิตของอียู กล่าวกับนักการทูตยุโรปว่า การเจรจากับลอนดอนอยู่ในภาวะหยุดนิ่ง และแนะนำให้อังกฤษลดระดับความทะเยอทะยานในการแถลงทางการเมืองลง เพื่อเป็นการปูทางสู่การเจรจาขั้นตอนต่อไป

อียูยังระบุว่า ยังไม่ได้รับข้อเสนอที่น่าเชื่อถือจากอังกฤษ

ในสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้ฝ่ายต่างๆ บอกว่ายังมองไม่เห็นแนวโน้มที่อังกฤษกับอียูจะมำข้อตกลงเบร็กซิตกันใหม่ได้ภายในการประชุมสุดยอดอียูที่บรัสเซลส์วันที่ 17-18 ตุลาคม ตามที่จอห์นสันพยายามป่าวร้อง