เอเอฟพี - รัฐบาลผสมใหม่ "เอียงซ้าย" ของอิตาลี จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันพฤหัสบดี(5ก.ย.) ขีดเส้นใต้ตอกย้ำให้เห็นว่าวิกฤตที่ผ่านนั้นมีต้นตอจากพวกขวาจัด ด้วยการแต่งตั้งคณะบริหารที่เต็มไปด้วยฝ่ายโปรยุโรปและพวกสายกลาง
จูเซปเป คอนเต้ ว่าที่นายกรัฐมนตรีอิตาลี เปิดตัวคณะรัฐมนตรีของเขา หลังได้ข้อสรุปในข้อตกลงกับคู่อริเก่าอย่างพรรคต่อต้านสถาบัน "ไฟว์สตาร์" และพรรคซ้ายกลาง "เดโมแครต ปาร์ตี"
เขาบอกว่าคณะรัฐมนตรีจะต้องทำงานด้วยความรู้สึกที่เข้มข้นเพื่อฟื้นฟูสปิริตต่างๆในอิตาลี ซึ่งถูกห้อมล้อมด้วยตัวเลขหนี้อันสูงลิ่ว, คนว่างงานจำนวนมาก,ความไม่พอใจอย่างกว้างขวางต่อคนเข้าเมือง และมิตรไมตรีที่ทรุดโทรมลงระหว่างอิตาลีกับบรัสเซลส์
คณะรัฐมนตรีมีกำหนดสาบานตนเข้ารับตำแหน่งตอนเวลา 10.00น.(ตรงกับเมืองไทย 15.00น.) ซึ่งจะนับเป็นการเข้าสู่ยุคการเมืองใหม่ หลังการพังครืนของรัฐบาลประชานิยมขวาจัดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ลุยจิ ดิ มาโย หัวหน้าพรรคไฟว์สตาร์ จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ และด้วยวันเพียง 33 ปี ทำให้เขาจะกลายเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของอิตาลี ส่วน โรแบร์โต กูอัลติเอรี จากพรรคเดโมแครต ปาร์ตี พรรคซ้ายกลาง จะนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีคลังในชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดลำดับ 3 ของยูโนโซนแห่งนี้
ในคณะรัฐมนตรีซึ่งมีทั้งหมด 21 คน มีอยู่ 7 รายที่เป็นผู้หญิง
สำหรับ กูอัลติเอรี ซึ่งเคยเป็นประธานคณะกรรมาธิการรัฐสภายุโรป ด้านกิจการเศรษฐกิจและการเงินในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จำเป็นต้องจัดการอย่างรวดเร็วในประเด็นที่กดดันอิตาลีมากที่สุด นั่นคืองบประมาณที่กำลังมาถึง หลังจากอียูปฏิเสธอนุมัติการเพิ่มเพดาลงบประมาณขาดดุล เพื่อนำไปใช้จ่ายในโครงการสาธารณะต่างๆของรัฐบาล
คอนเต้ มอบหมายตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยให้แก่ ลูเซียนา ลามอร์เกเซ อดีตหัวหน้าหน่วยงานด้านความมั่นคงของมิลาน ส่วน โลเรนโซ กูเอรินี อดีตประธานคณะกรรมการตรวจตราหน่วยงานข่าวกรองของรัฐสภา COPASIR จะนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกลาโหม
พรรคไฟว์สตาร์และพรรคเดโมแครต ยอมวางความเห็นต่างระหว่างสองพรรคเอาไว้เบื้องหลัง เพื่อสกัดไม่ให้ประเทศแห่งนี้ต้องมุ่งสู่การเลือกตั้งอีกหน หลังจาก มัตเตโอ ซัลวินี หัวหน้าพรรคเดอะลีก พรรคขวาจัด ได้ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลเมื่อเดือนที่แล้ว
ในการเลือกตั้งทั่วไปของอิตาลีเมื่อเดือนมีนาคมปี 2018 คะแนนเสียงของทั้งพรรคไฟว์สตาร์และเดอะลีก นั้นไม่มีฝ่ายใดครองเสียงข้างมากจนสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้จึงต้องตั้งรัฐบาลผสม โดยเสนอชื่อจูเซปเป คอนเต้ เป็นนายกรัฐมนตรีคนกลางขึ้นมานั่งหัวโต๊ะรัฐบาลผสมชุดนี้แทน ขณะที่หัวหน้าพรรคของทั้งสองพรรคนั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีร่วมกัน
อย่างไรก็ตามหลังการบริหารงานรัฐบาลคอนเต ผ่านมาได้ราวๆ 18 เดือน รองนายกฯจากสองพรรคใหญ่เผชิญความคิดเห็นไม่ตรงกันหลายเรื่องในหลายประเด็น ทั้งการผ่านร่างงบประมาณ เศรษฐกิจของอิตาลีที่ยังคงถดถอยที่สุดของอียู นโยบายผู้อพยพ รวมถึงล่าสุดกับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงในภาคเหนือ
รัฐบาลใหม่ยังจำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากทั้งสองสภา ซึ่งเป็นไปได้ว่าน่าจะเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อรับประกันว่าพวกเขาได้รับการสนับสนนจากเสียงข้างมาก ขณะที่คาดหมายว่าพรรคขนาดเล็กอย่าง Free and Equals ก็จะยกมือสนับสนุนด้วยเช่นกัน