เอพี – สงครามการค้าจีนสหรัฐฯล่าสุด มาตรการวอชิงตันขึ้นภาษี 15% สำหรับสินค้านำเข้าจีนมูลค่า 112 พันล้านดอลลาร์มีผลบังคับใช้แล้วในเช้าวันอาทิตย์(1 ก.ย) ส่งผลทำให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันต้องแบกรับภาระต้องจ่ายเพิ่มตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้า และอุปกรณ์กีฬาก่อนหน้าฤดูกาลช้อปปิ้งของชาวอเมริกัน
เอพีรายงานวันนี้(1 ก.ย)ว่า อัตราภาษี 15% สำหรับสินค้าจีนมูลค่า 112 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งกว่า 2 ใน 3 ของสินค้าผู้บริโภคในสหรัฐฯนั้นล้วนถูกนำเข้าจากจีนต้องเผชิญหน้ากับอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้น หลังจากก่อนหน้ารัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ พยายามที่จะไม่ให้กระทบสินค้าผู้บริโภคของการลงโทษจีนด้วยการขึ้นภาษี
แต่เป็นเพราะราคาสินค้าที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้นซึ่งกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจสหรัฐฯ บริษัทอเมริกันต่างพากันออกมาเตือนว่า เนื่องมาจากภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องจำยอมผลักภาระค่าใช้จ่ายเหล่านี้ให้กับประชาชน
หลังจากวันอาทิตย์(1)ที่ภาษี 15% ได้เริ่มบังคับใช้พบว่า 87%ของเสื้อผ้าและสิ่งทอมาจากจีน และ 52% ของรองเท้าจะต้องถูกปรับภาษีเพิ่ม
และในวันที่ 15 ธ.ค ปลายปีนี้รัฐบาลสหรัฐฯได้กำหนดที่จะเพิ่มอัตราภาษีระลอก 2 อีก 15% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 160 พันล้านดอลลาร์ และหากมีการบังคับใช้จริง จะครอบคลุมต่อสินค้านำเข้าสหรัฐฯจากจีนทั้งหมดทีเดียว
สถาบันการเงินเจพีมอร์แกน (J.P. Morgan)ได้ทำการศึกษาและพบว่า นโยบายการขึ้นภาษีของทรัมป์จะกระทบต่อครัวเรือนชาวอเมริกันโดยเฉลี่ย 1,000 ดอลลาร์/ปี ทั้งนี้การศึกษาชิ้นนี้ทำขึ้นก่อนที่ทรัมป์จะขึ้นภาษีวันที่ 1 ก.ย และวันที่ 15 ธ.ค จาก 10% ไปอยู่ที่ 15%
ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ประกาศว่าภาษีเดิมที่มีในอัตรา 25% ของสินค้าจีนมูลค่า 250 พันล้านดอลลาร์จะถูกปรับเพิ่มเป็น 30% ในวันที่ 1 ต.ค ที่จะถึง