เอเจนซีส์ - ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการระบาดของเชื้ออีโบลาในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เพิ่มขึ้นสูงกว่า 2,000 รายแล้ว จากข้อมูลของรัฐบาลที่เปิดเผยในวันศุกร์ (30 ส.ค.) ขณะที่ต้องรับมือกับความไม่ไว้วางใจของชุมชนและปัญหาด้านความปลอดภัย
การเสียชีวิตของเด็กหญิงวัย 9 ขวบในยูกันดา ที่มีผลทดสอบติดเชื้อหลังกลับมาจากคองโก ตอกย้ำให้เห็นถึงความท้าทายที่มีต่อทีมแพทย์ ในการควบคุมการระบาดในพื้นที่แถบชายแดนที่มีการสัญจรข้ามไปมา
ทีมงานของรัฐบาลที่ดูแลเรื่องนี้ ระบุว่า จำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้ว และถ้ารวมผู้มีแนวโน้มจะติดเชื้อด้วย ก็จะรวมกันสูงกว่า 3,000 ราย
แม้จะมีการพัฒนาวัคซีนและการรักษาที่มีประสิทธิภาพ แต่คนทำงานด้านสุขภาพก็ยังคงต้องพยายามหยุดยั้งไวรัสที่แพร่กระจายในพื้นที่ห่างไกล และพื้นที่ความขัดแย้งในคองโกตะวันออก ซึ่งชาวบ้านจำนวนมากต่างก็ระมัดระวังตัว
อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลก ระบุว่า ผู้ป่วยล่าสุดในยูกันดา ย้ำให้เห็นถึงทักษะของเจ้าหน้าที่ชายแดนในการตรวจจับและคัดแยกผู้ที่อาจมีการแพร่เชื้อ
นี่คือการระบาดของอีโบลาครั้งที่ 10 ของคองโก แต่มันเป็นครั้งแรกในจังหวัดชายแดนภาคเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าที่มีความรุนแรงโดยกองกำลังติดอาวุธและการฆ่ากันของชนเผ่า ซึ่งบ่อนทำลายความมั่นคงในบางพื้นที่มานานหลายทศวรรษ
ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลกประกาศให้การแพร่ระบาดเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา