เอเอฟพี – ทางการญี่ปุ่นสั่งอพยพประชาชนราว 240,000 คนในภาคตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเสี่ยงเผชิญเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มเนื่องจากฝนที่ตกหนักเป็นประวัติการณ์วันนี้ (28 ส.ค.) โดยล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 ราย
คำสั่งอพยพมีขึ้น หลังจากที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ออกประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของเกาะคิวชู “เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดหายนะขั้นรุนแรง”
ประชากรอีกเกือบ 1 ล้านคนได้รับคำเตือนในระดับรองลงมาให้เฝ้าระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก
สำนักงานดับเพลิงและจัดการภัยพิบัติระบุว่าได้รับแจ้งเหตุน้ำท่วมบ้านเรือนหลายหลังในจังหวัดซางะ (Saga) ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินความเสียหาย
“มีฝนตกหนักมากเป็นประวัติการณ์ในเมืองต่างๆ ที่เราได้ออกประกาศเตือนภัยฉุกเฉิน ในสถานการณ์เช่นนี้ขอให้ประชาชนพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเองปลอดภัย” ยาสุชิ คาจิวาระ เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น แถลงเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (28) พร้อมเตือนผู้ที่ได้รับคำแนะนำให้อพยพว่า “อย่ารีรอ”
ประกาศเตือนภัยฉุกเฉินนี้มีผลครอบคลุมพื้นที่จังหวัดซางะ, ฟูกูโอกะ และนางาซากิทางตอนเหนือของเกาะคิวชู
เจ้าหน้าที่จังหวัดซางะยืนยันกับเอเอฟพีว่า พบชายคนหนึ่งเสียชีวิตอยู่ภายในรถซึ่งถูกกระแสน้ำท่วมพัดพาไปเมื่อวันพุธ (27)
สภาพอากาศที่เลวร้ายยังส่งผลกระทบต่อการคมนาคม โดยเจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดถนนและงดให้บริการรถไฟในบางเส้นทาง ขณะที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเผยภาพแม่น้ำที่เอ่อล้นตลิ่ง และรถยนต์ซึ่งจอดอยู่ท่ามกลางน้ำสีโคลนที่ท่วมสูงเกือบมิดหลังคา
เจ้าหน้าที่ยังได้รับแจ้งเหตุดินถล่มในบางจุด ส่วนที่อาคารสถานีรถไฟเมืองซางะมีน้ำฝนเอ่อท่วมจนถึงระดับตาตุ่ม
เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นย้ำเตือนประชาชนให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเมื่อมีคำสั่งอพยพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเกิดเหตุภัยพิบัติน้ำท่วมและดินถล่มในภาคตะวันตกเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 200 คน
สาเหตุการเสียชีวิตมักเกิดจากเจ้าหน้าที่ออกคำสั่งอพยพช้าเกินไป หรือมีประชาชนบางส่วนที่ไม่ทำตาม