จีนประณามพวกผู้นำG7ออกถ้อยแถลงแทรกแซงกิจการภายในฮ่องกง

เซาต์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ - จีนในวันอังคาร(27ส.ค.) ประณามความเห็นที่ไร้ความรับผิดชอบของเหล่าผู้นำกลุ่มG7 ที่กล่าวพาดพิงฮ่องกงในถ้อยแถลงร่วมปิดท้ายการประชุม 3 วันในเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

ปักกิ่งยังกล่าวหาพวกผู้นำอังกฤษ, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ สำหรับแรงจูงใจแอบแฝงและแทรกแซงกิจการภายในของฮ่องกง หลังจากเหล่าผู้นำG7 ระบุในถ้อยแถลงร่วมแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ในเขตปกครองพิเศษแห่งนี้

ถ้อยแถลงร่วมที่เผยแพร่ออกมาหลังการประชุุมที่เมืองบีอาร์ริตซ์ในวันจันทร์(27ส.ค.) ระบุว่า "G7 ขอเน้นย้ำถึงการมีอยู่และความสำคัญของปฏิญญาร่วมจีน-อังกฤษ ปี 1984 ในเรื่องฮ่องกงและขอให้หลีกเลี่ยงความรุนแรง"

เกิง ฉวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวระหว่างแถลงสรุปประจำวันในวันอังคาร(28ส.ค.)ว่าฮ่องกงเป็นเรื่องภายในของจีนและต่างชาติไม่มีสิทธิ์ที่จะแทรกแซง "เราจะจัดการกิจการของเราเองและจะร้องขอสมาชิกกลุ่ม G7 อย่าได้แอบแฝงเจตนาปีศาจ อย่าได้สนใจธุระของคนอื่นและอย่าได้เดินหน้าแผนการอันมุ่งร้าย"

"ในเรื่องของปฏิญญาร่วมจีน-อังกฤษ ผมอยากจะขอย้ำอีกครั้งว่าวัตถุประสงค์ขั้นท้ายสุดและแก่นกลางของเนื้อหาปฏิญญาร่วมนั้นคือการยืนยันว่าจีนจะมีอำนาจอธิปไตยเหนือฮ่องกงต่อไป ไม่มีประเทศไหนๆหรือองค์กรใดๆมีสิทธิ์แทรกแซงกิจการฮ่องกงโดยการกล่าวอ้างปฏิญญาร่วมจีน-อังกฤษ" เกิง ฉวงระบุ

บอริส จอห์น นายกรัฐมนตรีอังกฤษระบุว่าสมาชิกกลุ่มจี7 "แสดงความกังวลอย่างสุดซึ้งร่วมกันเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในฮ่องกง" พร้อมระบุว่าพวกผู้นำยังคงมีพันธสัญญาร่วมกันต่อสูตร 1 ประเทศ 2 ระบบ"

รัฐบาลอังกฤษเรียกร้องจีนซ้ำๆให้ยึดมั่นต่อข้อกำหนดของปฏิญญาร่วมจีน-อังกฤษ ซึ่งระบุว่าเขตบริหารพิเศษฮ่องกงจะไม่ใช่ระบบสังคมนิยมของจีน และให้การรับประกันว่าระบบทุนนิยมของฮ่องกงและวิถีการดำเนินชีวิตในฮ่องกงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นเวลา 50 ปี ในนั้นรวมถึงคำสัญญาว่าฮ่องกงจะยังคงมีอำนาจปกครองตนเองขั้นสูง หลังอังกฤษส่งมอบเกาะแห่งนี้สู่อำนาจอธิปไตยของจีนในปี 1997

การประท้วงซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 2 เดือน ที่มีต้นตอจากความพยายามผลักดันร่างกฎหมายฉบับหนึ่งซึ่งจะอนุญาตให้ส่งผู้ต้องหาคดีอาญาไปดำเนินคดีในจีน ฉุดอดีตอาณานิคมของอังกฤษเข้าสู่วิกฤตครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ที่เกาะแห่งนี้ถูกส่งคืนสู่จีนในปี 1997 และก่อความท้าทายครั้งใหญ่หลวงแก่พรรคคอมมิวนิสต์ในปักกิ่ง

เมื่อวันอาทิตย์(25ส.ค.) ปักกิ่งส่งคำเตือนที่หนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยบอกว่าจะจัดการโดยตรงกับพวกผู้ประท้วงในฮ่องกง ขณะที่สำนักข่าวซินหัว สื่อมวลชนแห่งรัฐยังอ้างคำพูดของ เติ้ง เสี่ยวผิง อดีตผู้นำผู้ล่วงลับของจีนที่เคยบอกว่ารัฐบาลแผ่นดินใหญ่ต้องเข้าแทรกแซงในกรณีที่เกิดสถานการณ์ความไม่สงบในฮ่องกง