xs
xsm
sm
md
lg

อัยการ 19 รัฐและดี.ซี.ฟ้องศาลระงับกฎใหม่ของ ‘ทรัมป์’ ที่ให้ขังครอบครัวผู้อพยพได้ไม่มีกำหนด

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ – อัยการสูงสุดจาก 19 มลรัฐและเขตโคลัมเบีย (D.C.) พร้อมใจกันยื่นฟ้องศาลเพื่อคัดค้านกฎใหม่ของรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่กักขังครอบครัวผู้อพยพได้นานแบบไม่มีกำหนด

เอกสารคำฟ้องดังกล่าวถูกยื่นต่อศาลแขวงลอสแองเจลิสวานนี้ (26 ส.ค.) และคาดว่าจะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีตามมาอีกมากเพื่อยับยั้งคำสั่งของ ทรัมป์ ซึ่งถูกประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (23) และจะเริ่มมีผลบังคับใช้จริงในเดือน ต.ค.

“กฎเกณฑ์ใหม่ของ ทรัมป์ ส่งผลให้สวัสดิภาพและและความปลอดภัยของเด็กๆ ต้องตกอยู่ในความเสี่ยง ทั้งยังเป็นการบ่อนทำลายคำพิพากษาของศาลส่วนกลางที่มีมานานหลายสิบปีเพื่อป้องกันไม่ให้มีการกักขังเด็กผู้อพยพอย่างไม่เป็นธรรม” เอกสารคำฟ้องระบุ

ล่าสุด ทำเนียบขาวยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เมื่อค่ำวันจันทร์ (26)

กฎใหม่ของรัฐบาลทรัมป์มีวัตถุประสงค์เพื่อยกเลิกข้อตกลงในปี 1997 ซึ่งเรียกกันว่า ‘ข้อตกลงฟลอเรส’ (Flores settlement) ซึ่งห้ามไม่ให้หน่วยงานคนเข้าเมืองกักกันเด็กผู้อพยพเกินกว่า 20 วัน

ข้อตกลงดังกล่าวยังถูกขยายความในปี 2015 ให้ครอบคลุมถึงเด็กผู้อพยพที่เดินทางมากับบิดามารดาด้วย

เจ้าหน้าที่รัฐบาลทรัมป์ชี้ว่า ข้อจำกัดในการกักขังกลายเป็นปัจจัย “ดึงดูด” ผู้อพยพให้เข้ามายังอเมริกามากขึ้น โดยคนเหล่านี้หวังว่าหากหอบลูกจูงหลานมาถึงชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกและยื่นเรื่องขอลี้ภัยได้ ก็คงจะได้รับอนุญาตให้เข้าเมืองเพื่อรอคำตัดสินของศาล ซึ่งเป็นระบบที่ ทรัมป์ เรียกว่า “จับแล้วก็ปล่อย” (catch and release)

อย่างไรก็ดี ความพยายามทำลายข้อตกลงฟลอเรสอาจเผชิญอุปสรรคมากกว่าการถูกฟ้อง เพราะต่อให้ศาลอนุมัติให้คำสั่งของรัฐบาลมีผลบังคับใช้ แต่ภาครัฐก็จะต้องเสียงบประมาณเพิ่มขึ้นในการจัดหาเตียงมารองรับครอบครัวผู้อพยพที่ถูกกักขังยาวนานกว่าเดิม

เควิน แมคคาลีนัน รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ แถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐอเมริกา (ICE) มีสถานกักกันผู้อพยพอยู่เพียง 3 แห่ง สองแห่งในรัฐเทกซัสและอีกแห่งในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งทั้งหมดนี้มีเตียงรองรับผู้อพยพได้ประมาณ 2,500-3,000 เตียงเท่านั้น

ผู้อพยพซึ่งส่วนใหญ่เดินทางมาจากอเมริกากลางถูกจับกุมที่พรมแดนทางใต้ของสหรัฐฯ มากกว่า 42,000 ครอบครัวในเดือนที่แล้ว ซึ่งถือว่ามากเป็นประวัติการณ์สำหรับเดือน ก.ค. แต่ยังลดลงกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับตัวเลขในเดือน พ.ค.

ชอว์น นิวดาวเวอร์ โฆษก ICE ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่าทางหน่วยงานมีศักยภาพพอที่จะกักกันผู้อพยพได้เพิ่มขึ้นแค่ไหน

งบประมาณปี 2019 ได้กำหนดวงเงิน 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเป็นค่าจัดซื้อเตียง 49,500 เตียงสำหรับผู้อพยพวัยผู้ใหญ่ แต่มีเตียงสำหรับพ่อแม่และเด็กเพียง 2,500 เตียงเท่านั้น ขณะที่ตัวเลขผู้อพยพในความดูแลของ ICE เวลานี้สูงกว่า 55,000 คน

เทเรซา คาร์ดินัล บราวน์ อดีตที่ปรึกษาด้านนโยบายของสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ ยอมรับว่า ICE ยังประสบปัญหาในการขอความร่วมมือจากชุมชนเพื่อสร้างสถานกักกันผู้อพยพแห่งใหม่ๆ ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น