เอเจนซีส์/รอยเตอร์ – รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน โมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ (Mohammad Javad Zarif) เดินทางถึงเมืองเบียร์ริตซ์ (Biarritz)ฝรั่งเศส วันอาทิตย์(25 ส.ค) สถานที่จัดการประชุม G7 พบร่วมหารือนอกรอบร่วมกับผู้นำฝรั่งเศสวันเดียวกันนั้นก่อนเดินทางกลับทันที หาทางลดการคว่ำบาตรอิหร่านจากน้ำมือสหรัฐฯ
ฟรานซ์ 24 รายงานเมื่อวานนี้(25 ส.ค)ว่า การปรากฏตัวของรัฐมนตรีรต่างประเทศอิหร่านในวันอาทิตย์(25)ที่การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มG7นั้นเกิดขึ้นท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน สื่อฝรั่งเศสชี้ว่า เป็นความพยายามจากเจ้าภาพ ประธานาธิบดีเอ็มมานุแอล มาครง ในการที่จะหาทางช่วยอิหร่านในการถูกลดการคว่ำบาตรที่มาจากสหรัฐฯลง
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีการคาดว่า โมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ (Mohammad Javad Zarif)จะพบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเข้าร่วมการประชุม G7 ที่เมืองเบียร์ริตซ์ (Biarritz) แต่ทว่าการปรากฏตัวของชาย 2 คนในสถานที่เดียวกันได้สร้างความหวังไปทั่ว
อับบาส เมาซาวี (Abbas Mousav) โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน ได้ทวีตหลังจากเว็บไซต์ติดตามเครื่องบินได้ตรวจพบการร่อนลงจอดของเครื่องบินซารีฟที่เมืองเบียร์ริตซ์ว่า “ซารีฟ..ได้เดินทางถึงเบียร์ริตซ์แล้ว...เพื่อพูดคุยหารือต่อในประเด็นมาตรการล่าสุดระหว่างประธานาธิบดีอิหร่านและฝรั่งเศส”
ด้านประธานาธิบดีฝรั่งเศสยืนยันการเดินทางมายังฝรั่งเศสของรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน แต่ย้ำว่าไม่มีการกำหนดการหารือร่วมกับฝ่ายสหรัฐฯ
อัลญะซีเราะฮ์ รายงานว่า พบว่าซารีฟได้เข้าหารือนอกรอบการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌอง อีฟส์ เลอ เดรียน ( Jean-Yves Le Drian) เป็นเวลา 3 ชั่วโมงครึ่งเมื่อวานนี้(25) และได้พบกับมาครงเป็นเวลา 30 นาที ถือเป็นการพบกันครั้งที่ 2 ภายในรอบสัปดาห์หลังจากที่ได้พบกันที่กรุงปารีสเมื่อวันศุกร์(23) อ้างอิงจากรอยเตอร์ ก่อนที่ซารีฟจะเดินทางกลับทันทีภายในวันเดียวกันหลังจากนั้น
ทั้งนี้พบว่าซารีฟได้ทวีตข้อความว่า “การเคลื่อนไหวทางการทูตของอิหร่านในความพยายามเพื่อนำไปสู่การเกี่ยวข้องอย่างสร้างสรรค์ยังคงมีอยู่ต่อไป” และเสริมว่า “หนทางข้างหน้ายังคงเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่ก็คุ้มที่จะลงมือกระทำ”
เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบผู้นำฝรั่งเศสได้เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า การหารือนั้นเป็นไปในด้านดี
เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสเปิดเผยต่อว่า มาครงตัดสินใจเชิญรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านหลังจากเขาเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำผู้นำชาติกลุ่ม G7
และทางเจ้าหน้าที่ย้ำว่า ***การเชิญซารีฟนั้นได้รับการเห็นชอบจากฝ่ายสหรัฐฯ*** ซึ่งขัดแย้งกับทางทำเนียบขาวที่กล่าวว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้รับแจ้งถึงการมาเยือนของซารีฟ
ทั้งนี้ในวันศุกร์(23)พบว่ามาครงเป็นเจ้าภาพเชิญซารีฟร่วมหารือที่กรุงปารีส ซึ่งหลังการพบปะซารีฟเปิดเผยว่า คำแนะนำของมาครงนั้นเป็นไปในแง่บวกสำหรับอิหร่านแต่ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำให้สำเร็จ
ในการให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี เขากล่าวว่า “ประธานาธิบดีมาครงได้ให้คำแหนะนำในสัปดาห์ที่ผ่านมาแก่ประธานาธิบดี(ฮัสซัน) โรฮานี และทางเราเชื่อว่าพวกเขากำลังเดินมาถูกทางถึงแม้ว่าเราจะยังไปไม่ถึง”
ทั้งนี้นักการทูตฝรั่งเศสได้ให้สัมภาษณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า มีความจำเป็นที่ต้องให้มาตรการคว่ำบาตรขั้นสูงสุดต่ออิหร่านของสหรัฐฯนั้นหยุดลงชั่วคราวเพื่อทำให้ทางอิหร่านกลับคืนสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้ง
รอยเตอร์รายงานว่า ผู้นำสหรัฐฯกล่าวในวันจันทร์(26)ว่า เขาไม่ต้องการเปลี่ยนรัฐบาลอิหร่านแต่ต้องการเห็นอิหร่านมีความเข้มแข็ง พร้อมเสริมว่า มาตรฐานการครองชีพของชาวอิหร่านทั่วไปนั้นถึงขั้นรับไม่ได้
“ผมต้องการให้อิหร่านมีความก้าวหน้าและเข้มแข็ง ทางเราไม่ต้องการเปลี่ยนรัฐบาล คุณเห็นแล้วว่าตลอดเวลา 20 ปีนั้นเป็นเช่นใดบ้าง มันไม่ดีเอาซะเลย” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างการร่วมประชุมของกลุ่มผู้นำชาติที่ร่ำรวยของโลก
ทรัมป์ยังแสดงความเห็นว่า เขาไม่รู้สึกแปลกใจที่ฝรั่งเศสได้เชื้อเชิญรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน โมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ เข้าหารือนอกรอบการประชุม G7 ในวันอาทิตย์(25) ที่มีเป้าหมายในการลดความตรึงเครียดระหว่างวอชิงตันและเตหะราน อย่างไรก็ตามทรัมป์กล่าวว่า ไม่ต้องการพบกับซารีพพร้อมกับชี้ว่า เร็วเกินไปที่จะพบปะเช่นนี้
“ผมรู้ว่าเขาเดินทางเข้ามา และผมยอมรับในความจริงที่ว่าเขาเดินทางมา และเราเฝ้ารอเวลาที่อิหร่านจะร่ำรวยอีกครั้ง ให้พวกเขาร่ำรวย ให้พวกเขาอยู่ดีมีสุข หากว่าพวกเขาต้องการ” ทรัมป์กล่าว และเสริมต่อว่า “หรือพวกเขาสามารถยากจนเท่าที่จะเป็นไปได้ และผมจะบอกอะไรให้ ผมไม่คิดว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ในการที่พวกเขาต้องถูกบังคับให้ต้องอาศัยอยู่ในอิหร่าน”
ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันว่า สิ่งที่เขาต้องการจากอิหร่านคือการที่ไม่มีนิวเคลียร์โดยสิ้นเชิง เราต้องพูดคุยเกี่ยวกับขีปนาวุธ เราต้องพูดคุยเกี่ยวกับเงื่อนเวลา ทรัมป์กล่าวว่าทางอิหร่านต้องหยุดการก่อการร้าย เขาแสดงความเห็นว่า อิหร่านมีโอกาสที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้
ทั้งนี้ NBC NEWS รายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านถูกวอชิงตันประกาศคว่ำบาตรเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมล่าสุด โดยในขณะนั้นรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอกล่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน โมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ ตกเป็นเป้าหมายของการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯเนื่องมาจากเขาทำหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายให้กับผู้นำสูงสุดอิหร่าน อาลี คอเมเนอี ที่ถูกสหรัฐฯคว่ำบาตรเช่นกัน
