รอยเตอร์ - ประธานาธิบดี จาอีร์ โบลโซนาโร แห่งบราซิล ประกาศระดมทหารเข้าสกัดไฟป่าที่กำลังลุกไหม้เผาผลาญผืนป่าแอมะซอนวานนี้ (23 ส.ค.) หลังผู้นำยุโรปออกมาขู่ฉีกข้อตกลงการค้ากับอเมริกาใต้ สะท้อนอารมณ์โกรธเกรี้ยวของนานาชาติที่มีต่อแผนรับมือวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ในแดนแซมบ้า
รัฐบาลบราซิลระบุว่า ผืนป่าแอมะซอนซึ่งคิดเป็นพื้นที่กว่าครึ่งของป่าดิบชื้นที่ยังหลงเหลืออยู่ทั่วโลกเกิดไฟป่าเพิ่มขึ้นถึง 83% ในปีนี้ ส่งผลให้พื้นที่สีเขียวซึ่งช่วยยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศถูกทำลายอย่างกว้างขวางเป็นประวัติการณ์
ประธานาธิบดี เอมมานูแอล มาครง แห่งฝรั่งเศสเรียกร้องให้ผู้นำกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำ G7 ซึ่งจะจัดประชุมที่เมืองเบียร์ริตซ์ (Biarritz) ในสุดสัปดาห์นี้ร่วมกันหารือวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่กำลังเกิดขึ้นในบราซิล โดยฝรั่งเศสและไอร์แลนด์ขู่จะคัดค้านข้อตกลงการค้าที่สหภาพยุโรปทำร่วมกับกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจของรัฐในอเมริกาใต้ (Mercosur) เมื่อเดือน มิ.ย.
ภาพผืนป่าแอมะซอนถูกไฟเผาผลาญได้สร้างความสะเทือนใจต่อผู้คนทั่วทั้งโลก และนำไปสู่การชุมนุมประท้วงที่ด้านนอกสถานทูตบราซิล ตั้งแต่กรุงเม็กซิโกซิตีเรื่อยไปยันลอนดอนและปารีส
ที่กรุงนิโคเซียเมืองหลวงของไซปรัส กลุ่มผู้ประท้วงได้นำป้ายข้อความไปแขวนไว้ที่สถานทูตบราซิล โดยระบุว่า “ป่าแอมะซอนเป็นของโลก ไม่ใช่ของประธานาธิบดีบราซิล”
โบลโซนาโร ซึ่งเคยกล่าวหาว่าเอ็นจีโอที่ต่อต้านรัฐบาลเป็นตัวการจุดไฟป่าโดยไม่แสดงหลักฐานยืนยัน ประกาศผ่านสื่อโทรทัศน์วานนี้ (23) ว่าจะส่งทหารเข้าช่วยดับไฟป่า และหยุดยั้งการตัดไม้ทำลายป่าที่ผิดกฎหมายในแอมะซอน
อย่างไรก็ดี ผู้นำขวาจัดรายนี้ยังคงโทษสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งจัดว่าเป็นสาเหตุของไฟป่า และย้ำว่ารัฐบาลจำเป็นต้องผลักดันโครงการพัฒนาทางเศรษฐกิจในแอมะซอนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากร 20 ล้านคนที่นั่น
นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเตือนว่า นโยบายขยายพื้นที่การเกษตรและเหมืองของ โบลโซนาโร จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดการแผ้วถางป่ามากขึ้น
“เราต้องให้โอกาสประชาชนได้พัฒนา และรัฐบาลของผมก็กำลังทำสิ่งนั้นอยู่ โดยจะไม่อดทนกับปัญหาอาชญากรรม แม้กระทั่งเรื่องสิ่งแวดล้อมก็เหมือนกัน” โบลโซนาโร ระบุ
ผลสำรวจความคิดเห็นพบว่า ชาวบราซิลส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐบาล และในขณะที่ โบลโซนาโร กำลังกล่าวต่อผู้ฟังทั้งประเทศอยู่นั้น ประชาชนตามเมืองใหญ่ๆ ก็พากันทุบหม้อหรือกระทะโลหะ ซึ่งเป็นรูปแบบการประท้วงตามประเพณีของชาวละตินอเมริกา
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ผู้ซึ่งไม่ศรัทธาในทฤษฎีโลกร้อนเช่นเดียวกับโบลโซนาโร เสนอจะมอบความช่วยเหลือในการดับไฟป่าหากรัฐบาลบราซิลร้องขอมา
“ผมบอกกับเขาว่า ถ้าสหรัฐฯ สามารถช่วยเรื่องไฟป่าแอมะซอนได้ เราก็พร้อมที่จะช่วย!” ทรัมป์ ทวีตข้อความ
สำนักงานด้านอวกาศของบราซิล (INPE) ตรวจพบการปะทุของไฟป่าถึง 72,843 ครั้งในปีนี้ ซึ่งมากเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติเมื่อปี 2013
เฉพาะในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ดาวเทียมสามารถตรวจจับไฟป่าในแอมะซอนได้มากกว่า 9,500 จุด
แม้ไฟป่าจะถือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติในช่วงฤดูแล้ง แต่นักสิ่งแวดล้อมเชื่อว่าการที่เกษตรกรบราซิลเผาป่าเพื่อแปลงเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์คือสาเหตุหลักที่ทำให้วิกฤตไฟป่าแอมะซอนปีนี้รุนแรงเป็นพิเศษ
โบลโซนาโร ย้ำเสมอว่าบราซิลควรแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจจากผืนป่าแอมะซอนให้มากขึ้น เช่น การทำเหมือง ป่าไม้ และการเกษตร เป็นต้น
ผู้นำบราซิลยอมรับเป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดี (22) ว่า เกษตรกรอาจมีส่วนทำให้เกิดไฟป่า ขณะเดียวกันก็แสดงท่าทีไม่พอใจปฏิกิริยาของนานาชาติซึ่งเขามองว่าเป็นการ “แทรกแซง”