xs
xsm
sm
md
lg

'ทรัมป์'ไม่หยุด ยังตามด่านายกฯเดนมาร์ก 'น่ารังเกียจ' กล้าวิจารณ์ว่าไอเดียขอซื้อกรีนแลนด์ 'ไร้สาระ'

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

<i>นายกรัฐมนตรี เมตเทอ เฟรเดอริคเซน ของเดนมาร์ก ขณะแถลงข่าวแสดงความคิดเห็นเรื่องที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ยกเลิกการเยือนแดนโคนม ในฐานะพระราชอาคันตุกะของสมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก (State Visit) บริเวณด้านหน้าของอาคารรัฐบาลในกรุงโคเปนเฮเกน เมื่อวันพุธ (21 ส.ค.) </i>
เอพี/เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ยังคงขยายการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างประเทศให้บานปลายออกไปอีก โดยระบุในวันพุธ (22 ส.ค.) การที่เขายกเลิกเดินทางไปเยือนเดนมาร์กอย่างปุบปับนั้น เป็นเพราะนายกรัฐมนตรีของแดนโคนมแถลง “อย่างน่ารังเกียจ” ตอนที่เธอปฏิเสธไอเดียซึ่งเขาเสนอจะขอซื้อเกาะกรีนแลนด์ ด้วยการบอกว่าเป็นความคิดที่ไร้สาระ

“คุณต้องไม่พูดกับสหรัฐฯในลักษณะอย่างนั้น อย่างน้อยที่สุดก็ (สหรัฐฯที่อยู่) ภายใต้ผม” ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในกรุงวอชิงตัน “ผมคิดว่ามันไม่ได้เป็นคำแถลงที่น่ารักเลย ลักษณะที่เธอระบายอารมณ์ใส่ผมนะ”

ทางด้านนายกรัฐมนตรี เมตเทอ เฟรเดอริคเซน ของเดนมาร์ก เรียกเรื่องทั้งหมดนี้ว่าเป็น “การถกเถียงที่ไร้สาระ” และกล่าวว่าเธอ “รู้สึกผิดหวังและเซอร์ไพรซ์” ที่ทรมป์ได้ยกเลิกการเยือนของเขา

ทรัมป์กล่าวว่า การที่เฟรเดอริคเซนแสดงความเห็นด้วยการประทับตราความคิดของเขาว่าไร้สาระนั้น “เป็นเรื่องน่ารังเกียจ ผมคิดว่ามันเป็นการแถลงอย่างไม่ถูกต้องเหมาะสม ทั้งหมดที่เธอต้องพูด ก็แค่พูดมาว่า 'ไม่ เราไม่สนใจ (ที่จะขายกรีนแลนด์) หรอก'”

กรีนแลนด์เป็นดินแดนกึ่งปกครองตนเองของเดนมาร์ก ขณะที่เดนมาร์กเป็นชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ และเฟรเดอริคเซนยืนยันว่า สหรัฐฯยังคงเป็นหนึ่งในพันธมิตรใกล้ชิดของเดนมาร์ก

เสียงเอะอะโวยวายทางการเมืองเกี่ยวกับเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกแห่งนี้ สืบเนื่องมาจากที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ในย่านอาร์ติกของมันนั่นเอง ทั้งนี้ภาวะโลกร้อนกำลังทำให้กรีนแลนด์สามารถที่จะเข้าถึงทรัพยากรน้ำมันและแร่ธาตุอื่นๆ ซึ่งอยู่ใต้พื้นผิวที่ปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งหนาของตนเองเพิ่มขึ้นมาก โดยที่เวลานี้ทั้ง รัสเซีย, จีน, สหรัฐฯ, แคนาดา, และประเทศอื่นๆ ต่างกำลังแข่งขันกันเพื่ออ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนต่างๆ ให้แถบอาร์กติกให้แข็งขันที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ด้วยความหวังว่าดินแดนเหล่านี้จะก่อให้เกิดความมั่งคั่งร่ำรวยขึ้นในอนาคต

ทรัมป์เดิมทีมีกำหนดไปเยือนเดนมาร์กวันที่ 2-3 กันยายน โดยเป็นส่วนหนึ่งของการตระเวนไปยุโรปของเขา ทว่าในตอนก่อนเช้ามืดวันพุธ (21) ทรัมป์ทวิตแจ้งการตัดสินใจที่จะเลื่อนทริปนี้ของเขาไปอย่างไม่มีกำหนด ความเคลื่อนไหวเช่นนี้สร้างความตื่นตะลึงให้แก่ชาวเดนมาร์ก

แม้กระทั่งโฆษกสำนักพระราชวังของเดนมาร์ก ยังแถลงว่า ข่าวนี้ปรากฏออกมาชนิดถือเป็น “เซอร์ไพรซ์” โดยที่ตามพิธีการทูต สมเด็จพระราชินีของเดนมาร์ก คือผู้ที่ทรงเชื้อเชิญประมุขอเมริกันอย่างเป็นทางการให้มาเยือนในคราวนี้
<i>หนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ ของเดนมาร์ก ซึ่งวางอยู่ที่แผงขายในสถานีรถไฟกลางกรุงโคเปนเฮเกน เมื่อวันพฤหัสบดี (22 ส.ค.) ต่างพาดหัวข่าวเรื่องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์  บอกงดมาเยือนภายหลังนายกรัฐมนตรีเมตเทอ เฟรเดอริคเซน ปฏิเสธไม่หารือเรื่องการขายเกาะกรีนแลนด์ </i>
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯแถลงว่า รัฐมนตรีไมค์ พอมเพโอ ได้พูดโทรศัพท์กับรัฐมนตรีต่างประเทศ มอร์แกน โคฟ็อด ของเดนมาร์ก ในวันพุธ (21) และ “ได้แสดงความซาบซึ้งใจสำหรับความมร่วมมือของเดนมาร์ก ในฐานะเป็นพันธมิตรรายหนึ่งของสหรัฐฯ รวมทั้งคุณูปการของเดนมาร์กในการแก้ไขเรื่องเร่งด่วนต่างๆ ด้านความมั่นคงระดับโลกที่ถือเป็นปัญหาร่วมกัน”

ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเดนมาร์กบอกวา รัฐมนตรีต่างประเทศ เยปเปอ โคโฟด กับ พอมเพโอ ได้พูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา, เป็นมิตร, และสร้างสรรค์ รวมทั้ง “ยังหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มความร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้นกับราชอาณาจักรเดนมาร์ก (ซึ่งก็รวมไปถึงกรีนแลนด์) ในแถบอาร์กติก”

นายกฯเฟรเดอริคเซนแถลงว่า ได้มีการหยิบยกเรื่องความเป็นไปได้ที่จะมีการขายเกาะกรีนแลนด์ขึ้นมาหารือ และ คิม คีลเซน นายกรัฐมนตรีของกรีนแลนด์ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ ซึ่งตัวเธอก็หนุนหลังการปฏิเสธนี้อย่างแข็งขัน

กระนั้น เธอยืนยันว่าถึงแม้ทรัมป์ยกเลิกแผนการมาเยือน แต่ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างโคเปนเฮเกนกับวอชิงตัน ไม่ได้ตกอยู่ในวิกฤตแต่อย่างใด

อย่างไรก็ดี ชาวเดนมาร์กคนอื่นๆ ดูจะไม่แสดงท่าทีอย่างมีมารยาทงดงามเช่นนี้

มาร์ทิน ไลด์การ์ด อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศเดนมาร์ก กล่าวกับโทรทัศน์ ทีวี2 ว่า มันเป็น “เรื่องตลกขบขันทางการทูต” และความประพฤติของทรัมป์ถือว่า “พิลึกพิลั่น”
กำลังโหลดความคิดเห็น