อยู่ไม่ไหว! ชาวฮ่องกงแห่ซื้อบ้านใน ‘ไทย-มาเลเซีย’ หนีพิษการเมือง

เอเจนซีส์ - ทางการมาเลเซียเผยมีชาวฮ่องกงเข้ามาจับจองที่อยู่อาศัยมากกว่า 200 ยูนิต ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมุ่งดึงดูดชาวต่างชาติที่มีฐานะมั่งคั่ง บ่งชี้ว่าความไร้เสถียรภาพบนเกาะศูนย์กลางการเงินของจีนกำลังผลักไสพลเมืองบางส่วนให้มองหาบ้านในต่างแดนไว้เป็นที่หลบภัย

โครงการ “มาเลเซีย บ้านหลังที่สองของฉัน” (Malaysia My Second Home - MM2H) มีชาวฮ่องกงยื่นใบจองเข้ามามากถึง 251 รายในปีนี้ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับสถิติ 193 รายในปีที่ผ่านมา

ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ชี้ว่า สถานการณ์การประท้วงบนเกาะฮ่องกงที่รุนแรงและยืดเยื้อมานานกว่า 11 สัปดาห์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนฮ่องกงผู้มีอันจะกินหันมาซื้อที่อยู่อาศัยในต่างแดนเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ามาเลเซียและไทยจะได้อานิสงส์มากที่สุดจากการที่ชาวฮ่องกงรู้สึกเบื่อหน่ายวิกฤตการเมืองซึ่งปะทุขึ้นเป็นระยะๆ ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

“ปัจจัยกระตุ้นในฮ่องกงทำให้มาเลเซียกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับชาวฮ่องกงที่ต้องการหาบ้านใหม่” ชารีฟะห์ อิคลาส อัลจัฟฟรี ผู้อำนวยการโครงการ MM2H ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวมาเลเซีย ระบุ

“จุดแข็งของเราไม่ใช่แค่บรรยากาศที่เป็นมิตร ค่าครองชีพที่ค่อนข้างถูก และบริการด้านสุขภาพซึ่งทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยด้วย” เธอให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์

จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันอังคาร (20) โครงการ MM2H มีผู้ยื่นใบจองเข้ามาแล้วกว่า 3,500 รายในปีนี้ เทียบกับสถิติ 6,279 รายในปี 2018 ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีผู้จองรายใดที่ได้รับการอนุมัติ

ชารีฟะห์ เผยว่า ชาวฮ่องกงที่แจ้งความประสงค์ซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการ MM2H มีทั้งที่อายุต่ำและเกินกว่า 50 ปี โดยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

ชาวต่างชาติที่ผ่านการอนุมัติจะได้วีซ่าผู้พำนักที่สามารถเดินทางเข้า-ออกมาเลเซียได้หลายครั้ง และสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาตั้งแต่ 1 ล้านริงกิตขึ้นไป รวมถึงมีสิทธิ์เป็นเจ้าของรถยนต์ แต่จะไม่สามารถทำงานแบบเต็มเวลาได้ เว้นแต่จะมีใบอนุญาตทำงาน

ฟู กี เจน ผู้อำนวยการบริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ CBRE-WTW ในมาเลเซีย ระบุว่า เมืองใหญ่อื่นๆ ในอาเซียน เช่น กรุงเทพมหานคร, ฮานอย และโฮจิมินห์ ก็เป็นจุดหมายปลายทางลำดับต้นๆ ของชาวฮ่องกงเช่นกัน ส่วนสิงคโปร์ก็ได้รับความนิยมไม่น้อย ทว่าราคาบ้านจะแพงกว่าในมาเลเซียประมาณ 5 เท่าตัว