เอเจนซีส์ - ทรัมป์ประกาศยกเลิกการเดินทางไปเยือนเดนมาร์กต้นเดือนหน้าเอาดื้อๆ ทำให้แดนโคนมงงกันทั้งประเทศเมื่อวันพุธ (21 ส.ค.) ภายหลังประธานาธิบดีสหรัฐฯพูดทีเล่นทีจริงว่าอยากจะเจรจาซื้อเกาะกรีนแลนด์ ในฐานะที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ แล้วโคเปนเฮเกนตอบปฏิเสธว่า เกาะนี้“ไม่ได้มีไว้ขาย” ทั้งนี้จากกรณีที่เกิดขึ้นคราวนี้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กระหึ่มว่า ประมุขอเมริกันผู้นี้ทำตัวเหมือนเด็ก ดูหมิ่นทั้งเดนมาร์กและกรีนแลนด์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวิตเมื่อวันอังคาร (20) ขอเลื่อนการเดินทางเยือนและพบกับนายกรัฐมนตรีเมตเตอ เฟรเดอริกเซนของเดนมาร์ก ที่จะมีขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ออกไปก่อน เนื่องจากเฟรเดอริกเซนกล่าวชัดเจนว่า ไม่มีความสนใจที่จะหารือเรื่องการขายกรีนแลนด์
การตัดสินใจเลื่อนการเดินทางเท่ากับเป็นการยืนยันว่า ทรัมป์สนใจซื้อกรีนแลนด์จริงๆ จากที่เคยมีคนคิดว่า เป็นมุกตลกของเขาเท่านั้น
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลเป็นสื่อแห่งแรกที่รายงานว่า ทรัมป์แสดงความสนใจกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองของเดนมาร์กที่พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำแข็ง โดยขอให้บรรดาที่ปรึกษาตรวจสอบดูว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่อเมริกาจะขอซื้อดินแดนดังกล่าว
วอลล์สตรีท เจอร์นัลสำทับว่า ทรัมป์ ซึ่งเป็นเคยเป็นนักอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่มาก่อน สนใจใคร่รู้เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและความเกี่ยวข้องทางภูมิรัฐศาสตร์ของกรีนแลนด์
ในวันอาทิตย์ (18) ประมุขทำเนียบขาวยอมรับว่า สนใจดินแดนดังกล่าวจริง แต่ไม่ถึงกับกำหนดเป็นเป้าหมายหลักของคณะบริหารของเขา และการเยือนเดนมาร์กก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย ครั้นเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะพิจารณาแลกเปลี่ยนดินแดนของอเมริกากับกรีนแลนด์ ทรัมป์ตอบว่า หลายอย่างสามารถดำเนินการได้ โดยเฉพาะกรณีนี้ถือเป็นข้อตกลงอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่
ทว่า กระทรวงการต่างประเทศกรีนแลนด์ยืนยันตั้งแต่วันศุกร์ (16) ที่แล้ว ว่า พร้อมหารือเรื่องการทำธุรกิจ เนื่องจากกรีนแลนด์อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งแร่ธาตุ น้ำแข็งและน้ำบริสุทธิ์ที่สุด ปลา อาหารทะเล พลังงานทดแทน ทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการผจญภัยใหม่ แต่ก็ย้ำว่า กรีนแลนด์ไม่ได้มีไว้ขาย
นอกจากนั้น ระหว่างการเยือนกรีนแลนด์เมื่อวันอาทิตย์ นายกรัฐมนตรีเฟรเดอริกเซนยังวิจารณ์ว่า ไอเดียซื้อกรีนแลนด์ของทรัมป์ “ไร้สาระ”
ในอีกด้านหนึ่ง ลีน บัลเลบี ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของสำนักพระราชวังเดนมาร์ก ให้สัมภาษณ์วันพุธ (21) ว่า พระราชวงศ์เดนมาร์ก ซึ่งเชิญทรัมป์เดินทางเยือนอย่างเป็นทางการในวันที่ 2-3 เดือนหน้า ประหลาดใจกับการตัดสินใจของผู้นำสหรัฐฯ
แม้รัฐบาลกรุงโคเปนเฮเกนไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ แต่บรรดานักการเมือง รวมถึงอดีตรัฐมนตรีหลายคนของเดนมาร์ก พากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง
มาร์ติน ลิเดการ์ด อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่า การกระทำของทรัมป์เป็น “ละครตลกทางการทูต” และผู้นำอเมริกายังมีพฤติกรรม “พิลึก” ชอบแสดงความเกรี้ยวกราดเหมือนเด็กๆ
อดีตนายกรัฐมนตรีเฮลลี ทอร์นนิง-ชมิดต์ ทวิตว่า การยกเลิกการเยือนของทรัมป์เป็นการดูหมิ่นกรีนแลนด์และเดนมาร์ก
ราสมุส จาร์ลอฟ สมาชิกพรรคคอนเซอร์เวทีฟซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ทวิตว่า ทรัมป์ทึกทักเองว่า กรีนแลนด์มีไว้ขาย แล้วอยู่ๆ ก็ยกเลิกการเยือนที่ทุกคนเตรียมการไว้อย่างดี
กรีนแลนด์เป็นดินแดนที่ตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกและอาร์กติก มีพื้นที่ 1.7 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่ง 80% ปกคลุมด้วยน้ำแข็ง
ว่ากันว่า ใต้แผ่นน้ำแข็งเหล่านี้อาจมีน้ำมันและแร่ธาตุซ่อนอยู่ ซึ่งหากสามารถขุดเจาะขึ้นมาใช้ได้จะทำให้อนาคตกรีนแลนด์เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่มีการค้นพบน้ำมันในน่านน้ำกรีนแลนด์ และความหนาของแผ่นน้ำแข็งหมายความว่า การสำรวจทำได้เฉพาะบริเวณชายฝั่งเท่านั้น
ทรัมป์ไม่ใช่ผู้นำอเมริกันคนแรกที่พยายามซื้อเกาะใหญ่ที่สุดของโลกแห่งนี้ เมื่อปี 1946 อเมริกาเคยเสนอซื้อกรีนแลนด์ด้วยเงิน 100 ล้านดอลลาร์ หลังจากเพ้อฝันกับไอเดียการแลกเปลี่ยนดินแดนในอะแลสกากับกรีนแลนด์
นอกจากนั้นในปี 1951 เดนมาร์กยังทำข้อตกลงยอมให้อเมริกาเข้าไปสร้างฐานทัพและสถานีเรดาร์ในกรีนแลนด์ และกองทัพอากาศสหรัฐฯ ยังคงมีฐานทัพในดินแดนดังกล่าวหนึ่งแห่งในขณะนี้