รอยเตอร์ - บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่เห็นด้วยและสนับสนุนให้นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ใช้นโยบายการค้าที่แข็งกร้าวกับเกาหลีใต้ ผลสำรวจล่าสุดของรอยเตอร์เผยวันนี้ (20 ส.ค.)
ผลสำรวจ Reuters Corporate Survey พบว่า บริษัทญี่ปุ่นราว 3 ใน 4 พอใจคำอธิบายของนายกฯ อาเบะ เกี่ยวกับมาตรการคุมเข้มส่งออกวัสดุไฮเทคที่จำเป็นต่อการผลิตชิปและสมาร์ทโฟนไปยังเกาหลีใต้ และมากกว่า 9 ใน 10 เชื่อว่าญี่ปุ่นจะเป็นฝ่ายชนะ หากรัฐบาลโซลยื่นเรื่องร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก (WTO)
ข้อพิพาทการค้าระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในขณะนี้เป็นปัญหาที่ลุกลามบานปลายมาจากปมขัดแย้งเรื่องแรงงานทาสในยุคสงคราม
เมื่อเดือน ก.ค. ผู้นำญี่ปุ่นได้สั่งเพิ่มความเข้มงวดในการส่งออกเคมีภัณฑ์ 3 ชนิดที่จำเป็นต่อการผลิตชิปและหน้าจอสมาร์ทโฟนไปยังแดนโสมขาว และในเดือนนี้ก็ยังถอดเกาหลีใต้ออกจากบัญชีประเทศคู่ค้าชั้นดีที่ได้สิทธิ์ ‘ฟาสต์แทร็ก’ อีกด้วย
การถอดเกาหลีใต้ออกจากบัญชีประเทศสีขาว (white-list) จะทำให้ผู้ส่งออกญี่ปุ่นต้องยื่นเอกสารเพิ่มขึ้น หรือถูกตรวจสอบสินค้าก่อนจะได้ใบอนุญาตจากรัฐบาลโตเกียว ซึ่งจะทำให้กระบวนการส่งออกต้องล่าช้าออกไป
ผลสำรวจรอยเตอร์พบว่า ภาคธุรกิจญี่ปุ่นมีมุมมองที่ต่างกันในเรื่องผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นเอง โดยบางบริษัทที่ไม่ได้ทำธุรกิจโดยตรงกับเกาหลีใต้เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบมากนัก ขณะที่อีกหลายบริษัทเชื่อว่ากระทบแน่ และยังเป็นห่วงด้วยว่าข้อพิพาทครั้งนี้จะยิ่งกระพือสงครามการค้า บั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และท้ายที่สุดก็จะทำให้บริษัทของพวกเขามีกำไรและศักยภาพด้านการแข่งขันลดลง
“ในขณะที่เรากำลังยืนอยู่บนปากเหวของภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน การกระทำใดๆ ที่จะกระตุ้นให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงจึงไม่ใช่เรื่องเหมาะสม” ผู้จัดการของบริษัทค้าปลีกแห่งหนึ่งระบุ
ด้านผู้จัดการบริษัทผลิตเครื่องจักรกลรายหนึ่งกลับเห็นต่างออกไป โดยชี้ว่า “เห็นได้ชัดว่ารัฐบาล มุน (แจ-อิน) ให้ความสำคัญกับการปรองดองเกาหลีเหนือมากเป็นพิเศษ ในขณะที่เกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าพัฒนานิวเคลียร์... ดังนั้น การถอดเกาหลีใต้ออกจากบัญชีประเทศคู่ค้าที่น่าไว้วางใจเป็นพิเศษจึงเป็นสิ่งสมควรแล้ว”
ผลสำรวจโดยหนังสือพิมพ์อาซาฮีซึ่งเป็นสื่อสายเสรีนิยมเมื่อเดือนที่แล้วพบว่า ชาวญี่ปุ่น 56% มองว่ามาตรการตอบโต้ทางการค้าของ อาเบะ ต่อเกาหลีใต้เป็นเรื่อง “สมเหตุสมผล” ขณะที่สื่อสายอนุรักษนิยมอย่างโยมิอุริชิมบุนให้ตัวเลขผู้สนับสนุนสูงถึง 71%
แม้รัฐบาลญี่ปุ่นจะอ้างว่าทำไปด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง แต่เกาหลีใต้เชื่อว่าโตเกียวมีเจตนาแก้แค้นที่ศาลโสมขาวพิพากษาให้บริษัทชั้นนำของแดนอาทิตย์อุทัยจ่ายเงินชดเชยหลายล้านดอลลาร์แก่ชาวเกาหลีที่ถูกบังคับใช้แรงงานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ผลสำรวจชิ้นนี้จัดทำโดยสถาบันวิจัยนิกเกอิ (Nikkei Research) ในนามของรอยเตอร์ โดยเก็บข้อมูลจากบริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นทั้งในอุตสาหกรรมการผลิตและอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 504 ราย ระหว่างวันที่ 31 ก.ค. - 14 ส.ค.