xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’ ขู่เจรจาการค้าจีนมีปัญหาแน่ หากฮ่องกงซ้ำรอย ‘เทียนอันเหมิน’

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี - ผู้นำสหรัฐฯ ออกมาเตือนวานนี้ (18 ส.ค.) ว่าการค้าระหว่างอเมริกากับจีนอาจได้รับผลกระทบ หากปักกิ่งใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมประท้วงฮ่องกง เหมือนที่เคยปราบปรามกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมินจนมีผู้บาดเจ็บล้มตายนับพันคนเมื่อ 30 ปีก่อน

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์สื่อที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ โดยระบุว่า “ผมคิดว่าเราคงจะดีลกันได้ยากหากพวกเขาใช้ความรุนแรง ผมหมายถึงว่าหากเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินอีกครั้ง”

“มันจะเป็นเรื่องยาก หากเกิดความรุนแรงขึ้น”

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ยืดเยื้อมานานนับปีส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกปั่นป่วน และเริ่มปรากฏสัญญาณเตือนว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัว

คำเตือนจาก ทรัมป์ มีขึ้นในขณะที่วอชิงตันและปักกิ่งพยายามรื้อฟื้นการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาทการค้า

แลร์รี คัดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของรัฐบาลทรัมป์ ระบุวานนี้ (18) ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนจะเปิดการหารือทางโทรศัพท์ในช่วง 10 วันข้างหน้า และหากประสบความสำเร็จก็จะมีการพูดคุยระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงขึ้นไป

ฮ่องกงตกอยู่ในภาวะสับสนอลหม่านจากการชุมนุมประท้วงที่ยืดเยื้อมานานกว่า 2 เดือน และแม้จะมีคำขู่ที่แข็งกร้าวจากจีน แต่เมื่อวานนี้ (18) ยังคงมีผู้คนออกมาร่วมเดินขบวนอย่างสันติมากถึง 1.7 ล้านคน ตามข้อมูลของฝ่ายแกนนำ

สัปดาห์ที่แล้ว ผู้ประท้วงหลายร้อยคนได้บุกเข้าไปชุมนุมภายในอาคารผู้โดยสารขาเข้าและออกของสนามบินฮ่องกง จนทำให้การสัญจรทางอากาศเป็นอัมพาต

พรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มส่งสัญญาณเตือนแข็งกร้าวมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยระบุว่าพฤติกรรมของผู้ประท้วงหัวรุนแรงกลุ่มน้อยกำลังเป็นสัญญาณของ “ลัทธิก่อการร้าย” ขณะที่สื่อทางการจีนแพร่ภาพกองกำลังกึ่งทหารและขบวนรถหุ้มเกราะมุ่งหน้าไปยังนครเซินเจิ้นซึ่งมีพรมแดนติดกับฮ่องกง

จีนเคยใช้รถถังปราบปรามผู้ประท้วงฝักใฝ่ประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่งเมื่อปี 1989 ซึ่งโศกนาฏกรรมครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตโดยประมาณการณ์ตั้งแต่หลายร้อยจนถึงหลักพันคน

ถ้าเหตุการณ์ลักษณะนั้นเกิดขึ้นที่ฮ่องกง “ผมคิดว่าจะเกิดความรู้สึกทางการเมือง (political sentiment) ที่ใหญ่หลวง หากเราไม่ทำอะไรเลย” ทรัมป์ กล่าว โดยอ้างถึงการเจรจาการค้ากับจีน

อย่างไรก็ดี ผู้นำสหรัฐฯ ยังเลี่ยงที่จะประกาศสนับสนุนผู้ประท้วงฮ่องกง โดยกล่าวเพียงว่า “ผมอยากเห็นสถานการณ์นี้คลี่คลายอย่างมีมนุษยธรรม” พร้อมเรียกร้องให้ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนยอมเจรจากับกลุ่มผู้เห็นต่าง

ข้อตกลงส่งคืนฮ่องกงที่จีนทำร่วมกับอังกฤษเมื่อปี 1984 กำหนดไว้ว่ารัฐบาลจีนจะยินยอมให้ฮ่องกงได้มีอำนาจปกครองตนเองในระดับสูง และมีเสรีภาพในแบบที่พลเมืองบนแผ่นดินใหญ่ไม่มี อย่างไรก็ตาม ชาวฮ่องกงส่วนใหญ่กลับรู้สึกว่าเสรีภาพที่เคยมีมากำลังถูกลิดรอนไปทีละน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากประธานาธิบดี สี ขึ้นครองอำนาจในปี 2012

สัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์โกลบัลไทม์สซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีนยืนยันผ่านบทบรรณาธิการว่า เหตุการณ์แบบที่เทียนอันเหมิน “จะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก”

“จีนมีความเข้มแข็งและวุฒิภาวะมากกว่าแต่ก่อน และมีศักยภาพในการจัดการสถานการณ์ที่ยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้นด้วย”

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า การส่งทหารเข้าสลายการชุมนุมประท้วงในฮ่องกงจะก่อให้เกิดผล “หายนะ” ทั้งต่อภาพลักษณ์และเศรษฐกิจของแดนมังกร
กำลังโหลดความคิดเห็น