รอยเตอร์ – นิวเดลีประกาศห้ามการเคลื่อนไหวครั้งใหม่ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองศรีนาการ์ เมืองเอกของแคชเมียร์ในวันอาทิตย์(18 ส.ค) หลังจากมีการปะทะระหว่างตำรวจและประชาชนในพื้นที่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ต่ำกว่าสิบคน เจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 คนและพยานในเหตุการณ์ให้ข้อมูล
รอยเตอร์รายงานวันนี้(18 ส.ค)ว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุดมีการประท้วงหลายครั้งเกิดขึ้นต่อต้านคำสั่งเมื่อวันที่ 5 ส.คของรัฐบาลนิวเดลีที่สั่งยุติระบบการปกครองตัวเองของแคว้นจัมมูและแคชเมียร์ พร้อมยังแบ่งแยกแคว้นออกเป็น 2 ส่วน
ซึ่งการประท้วงเกิดขึ้นตามหลังการผ่อนผันมาตรการห้ามการเคลื่อนไหวในช่วงเช้าวันเสาร์(17)
รัฐบาลของรัฐที่ผ่านมาได้กล่าวว่า ไม่ได้มีการบังคับใช้กฎเคอร์ฟิวในช่วง 2 สัปดาห์ แต่ในวันอาทิตย์(18)พบว่าประชาชนต่างพากันต้องพบกับการปิดกั้นบนท้องถนนภายในเมืองอีกครั้งหลังจากแบริเออร์ได้ตั้งขึ้นภายในแค่ช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งมีกองกำลังความมั่นคงบางส่วนที่ประจำตามจุดบนท้องถนนได้บอกชาวแคชเมียร์ว่า มีการใช้กฎเคอร์ฟิว
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า มีคนไม่ต่ำกว่าสิบถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจากอาการบาดเจ็บจากกระสุนลูกปรายหลังจากการปะทะอย่างรุนแรงเกิดขึ้นในคืนวันเสาร์(17)
หนึ่งในแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ผู้ประท้วงแคชเมียร์ขว้างหินใส่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงราว 24 จุดทั่วเมืองศรีนาการ์ และเปิดเผยว่าการใช้ก้อนหินเป็นอาวุธขว้างใส่เจ้าหน้าที่เกิดขึ้นอย่างหนักในช่วงไม่กี่วันมานี้
การปะทะอย่างร้ายแรงชั่วข้ามคืนส่วนใหญ่เกิดขึ้นใน ไรนาวารี(Rainawari) โนเวตตา (Nowhetta) และโกจวารา( Gojwara)ของเมืองเก่าซึ่งเป็นจุดที่กองกำลังได้ยิงแก๊สน้ำตา ระเบิดพริก(chilli grenade)ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยกองทัพอินเดีย และกระสุนลูกปรายเพื่อสลายผู้ประท้วง พยานในเหตุการณ์และเจ้าหน้าที่กล่าว
ระเบิดพริกนั้นภายในบรรจุพริกที่มีความแสบร้อน ทำให้เกิดการระคายเคืองที่ดวงตาและผิวหนัง รวมไปถึงความรู้สึกแสบร้อนทางจมูกเมื่อสูดเข้าไป
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ยังเปิดเผยว่า ยังมีจุดอื่นที่มีการปะทะอื่นๆภายในเมืองรวมไปถึงเซารา( Soura) ซึ่งถือเป็นจุดศูนย์กลางการประท้วงในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
พบว่ามีผู้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลักของเมืองศรีนาการ์ในสภาพบาดเจ็บจากกรถสุนลูกปรายจำนวน 17 คน แต่มี 12 คนได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ เหลือแต่อีก 5 คนที่มีอาการหนัก
อย่างไรก็ตามพบว่ามีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น โมฮัมหมัด อายุบMohammad Ayub) วัย 65 ปีถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลในสภาพที่มีปัญหาทางการหายใจหลังจากตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนพริกในพื้นที่เมืองเก่าในวันเสาร์(17) อยุบเสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลในช่วงดึกในคืนนั้น และทางครอบครัวได้ทำพิธีฝังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รอยเตอร์รายงานว่า ได้มีการเปิดให้ใช้โทรศัพท์บ้านได้ในบางส่วนของเมืองเมื่อวานนี้(17)หลังจากได้มีการถูกตัดลงมานาน 12 วัน ซึ่งรัฐบาลประจำรัฐกล่าวว่า การให้บริการโทรศัพท์ติดต่อภายในภูมิภาคจะสามารถใช้ได้ในช่วงค่ำวันนี้(18) แต่อินเตอร์เนตและโทรศัพท์มือถือยังคงถูกปิดต่อไปในแคชเมียร์
มีผู้นำชุมชน นักการเมือง และนักเคลื่อนไหวจำนวน 500 คนยังคงอยู่ภายในเรือนจำ และพบว่ามีบางส่วนถูกนำตัวออกนอกพื้นที่เพื่อนำตัวไปขังนอกรัฐจัมมูและแคชเมียร์
นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี อ้างว่าการยุติการปกครองตนเองของแคชเมียร์มีความจำเป็นเพื่อการรวมชาติและทำให้การพัฒนาสามารถเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว