รอยเตอร์ - สนามบินฮ่องกงกลับมาเปิดทำการอีกครั้งในเช้าวันนี้ (14 ส.ค.) หลังเกิดการปะทะระหว่างตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา โดยล่าสุดการท่าอากาศยานฮ่องกงอ้างว่าได้รับคำสั่งศาลให้เคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมที่กีดขวางการปฏิบัติงานของทางสนามบิน และจะอนุญาตให้ชุมนุมได้เฉพาะพื้นที่ที่กำหนดไว้เท่านั้น
การปฏิบัติงานภายในสนามบินฮ่องกงกลายเป็นอัมพาตติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังมีผู้ประท้วงกลุ่มใหญ่บุกเข้าไปในอาคารผู้โดยสารทั้งขาเข้าและออกอีกครั้งเมื่อวันอังคาร (13) กระทั่งสนามบินต้องระงับบริการเช็คอินสำหรับเที่ยวบินขาออกในช่วงเย็น ซึ่งหมายถึงการยกเลิกเที่ยวบินที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมด
ผู้ประท้วงบางคนได้นำรถเข็นกระเป๋าไปขวางประตูทางเข้าด่านศุลกากร มีความพยายามปิดกั้นเส้นทางไม่ให้รถตำรวจเข้า กระทั่งตำรวจต้องใช้สเปรย์พริกไทยฉีดใส่ฝูงชน และมีผู้เห็นตำรวจนายหนึ่งชักปืนออกมาขู่ผู้ชุมนุมด้วย
กลุ่มผู้ประท้วงราว 30 คนยังคงปักหลักอยู่ที่สนามบินจนถึงเช้าวันนี้ (14) ขณะที่พนักงานเร่งทำความสะอาดคราบเลือดและเศษสิ่งของที่กระจัดกระจายจากเหตุการณ์ปะทะเมื่อคืน ส่วนเคาน์เตอร์เช็คอินก็เริ่มเปิดให้บริการแก่ผู้โดยสารนับพันคนที่กำลังรอไฟล์ทเดินทางออกจากฮ่องกง
ตำรวจประณามกลุ่มผู้ประท้วงที่ใช้ความรุนแรงเมื่อคืนนี้ และอ้างว่ามีผู้ชุมนุมกลุ่มใหญ่ “เข้าไปข่มขู่และทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวและผู้สื่อข่าวอีกคนหนึ่ง”
ตำรวจยืนยันว่ามีผู้ประท้วงถูกจับไป 5 คน ทำให้ขณะนี้ยอดผู้ถูกจับกุมในเหตุการณ์ประท้วงฮ่องกงตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาเพิ่มเป็นกว่า 600 คน
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยืนยันวานนี้ (13) ว่าหน่วยข่าวกรองอเมริกันพบรัฐบาลจีนเคลื่อนกำลังทหารประชิดชายแดนฮ่องกง และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบ
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า สถานการณ์ในฮ่องกงเวลานี้เข้าขั้น “สุ่มเสี่ยง” แต่ก็เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วผลลัพธ์จะออกมาดีสำหรับทุกฝ่าย ทั้งต่อจีนและต่อ “เสรีภาพ” ของประชาชนชาวฮ่องกง โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
วิกฤตการณ์ที่ส่อเค้าลุกลามบานปลายฉุดให้ดัชนีฮั่งเส็งของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนเมื่อวานนี้ (13) ขณะที่ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง แคร์รี ลัม เตือนว่ามหานครการเงินของจีนกำลังเข้าสู่ภาวะ “ตื่นตระหนกและความสับสนวุ่นวายครั้งใหญ่”
รัฐบาลจีนประณามกลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรงที่ใช้อาวุธอันตรายทำร้ายตำรวจ โดยชี้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นสัญญาณการปรากฏของ “ลัทธิก่อการร้าย” ขณะที่ฝ่ายผู้ชุมนุมก็อ้างว่ากำลังต่อต้านการบ่อนทำลายหลัก “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ที่ให้อำนาจปกครองตนเองในขั้นสูงแก่ฮ่องกง นับตั้งแต่อังกฤษได้ส่งมอบเกาะแห่งนี้คืนแก่จีนเมื่อปี 1997
ล่าสุด หนังสือพิมพ์พีเพิลส์เดลีซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ลงบทบรรณาธิการในฉบับวันนี้ (14) โดยระบุว่า "การใช้กระบี่แห่งกฎหมายเพื่อหยุดยั้งความรุนแรงและฟื้นคืนความสงบเรียบร้อย คือสิ่งสำคัญที่สุด และเป็นภารกิจเร่งด่วนสำหรับฮ่องกง”
ด้านสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงก็ได้ลงโฆษณาขนาดครึ่งหน้าในหนังสือพิมพ์ ฮ่องกง อีโคโนมิก เจอร์เนิล วันนี้ (14) โดยประกาศสนับสนุนรัฐบาลและเรียกร้องให้มีการกอบกู้หลักนิติธรรมและความสงบเรียบร้อยของสังคมกลับคืนมา
“หลักนิติธรรมถือเป็นหัวใจสำคัญของความเจริญรุ่งเรือง และช่วยให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตและปฏิบัติกิจการงานต่างๆ ได้โดยปกติสุข เราจำเป็นต้องต่อต้านความรุนแรง ฟื้นฟูสันติภาพ และธำรงไว้ซึ่งความเจริญรุ่งเรืองและเสถียรภาพของฮ่องกง” สื่อโฆษณาดังกล่าวระบุ
สไวร์ แปซิฟิค (Swire Pacific) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของคาเธ่ย์แปซิฟิคก็ได้ลงโฆษณาในสื่อฉบับเดียวกัน โดยสนับสนุนจุดยืนของสายการบินที่ “ใช้ความอดทนเป็นศูนย์ (zero tolerance) ต่อกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย”
สำนักงานการบินพลเรือนของจีน (CAAC) มีคำสั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้คาเธ่ย์แปซิฟิคห้ามบุคลากรที่ไปเข้าร่วมหรือสนับสนุนการประท้วงบินเข้าน่านฟ้าจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งต่อมาทางสายการบินได้สั่งพักงานนักบินไป 2 คน