เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - วอลล์สตรีทพุ่งแรงและทองคำปรับลดในวันอังคาร (13 ส.ค.) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เลื่อนกรอบเวลารีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนออกไป จุดพลิกผันจากสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายในข้อพิพาททางการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง ปัจจัยนี้ช่วยส่งให้ราคาน้ำมันปิดบวกอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 382.20 จุด (1.48 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 26,279.91 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 43.23 จุด (1.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,926.32 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 152.95 จุด (1.95 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,016.36 จุด
ในวันอังคาร (13 ส.ค.) สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เผยว่า จะเลื่อนมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 10% ต่อสินค้าบางอย่างที่นำเข้าจากจีนออกไปจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม ในนั้นรวมถึงแล็ปท็อปและโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเดิมทีมีกำหนดเริ่มบังคับใช้ในเดือนหน้า
นอกเหนือจากแล็ปท็อปและโทรศัพท์มือถือแล้ว ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่จะได้รับการเลื่อนรีดภาษีออกไปจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม ยังรวมไปถึง “คอมพิวเตอร์, เครื่องเล่นวิดีโอเกม, ของเล่นบางอย่าง, จอคอมพิวเตอร์, รองเท้าบางรายการและเสื้อผ้า” ถ้อยแถลงของ USTR ระบุ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ทางโฆษก USTR เผยว่า โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และสตรีฟ มนูชิน รัฐมนตรีคลังอเมริกา ได้หารือทางโทรศัพท์กับ หลิว เหอ นายกรัฐมนตรีของจีน ในขณะที่สองชาติมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกกำลังมะรุมมะตุ้มกันในสงครามการค้าที่กำลังลุกลามบานปลายมากขึ้นเรื่อยๆ และทั้งสองฝ่ายนัดหมายจะพูดคุยกันอีกครั้งภายใน 2 สัปดาห์
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และฉุดราคาทองคำในวันอังคาร (13 ส.ค.) แกว่งตัวจากระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 ปีในระหว่างการซื้อขาย กลับมาปิดในแดนลบ โดยราคาทองสัญญาโคเม็กซ์ ลดลง 3.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,514.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านราคาทองคำในวันอังคาร (13 ส.ค.) พุ่งแรงกว่า 2 ดอลลาร์ ปิดระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ ได้แรงหนุนจากสหรัฐฯ เลื่อนรีดภาษีสินค้านำเข้าบางอย่างของจีนไปจนเดือนธันวาคม และความคาดหมายต่อข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองของอเมริกา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 2.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 2.73 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักลงทุนจับตาข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ออกมาในวันพุธ(14ส.ค.) ในขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของบรรดานักวิเคราะห์ที่จัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบัล แพลตส์ คาดหมายว่าคลังน้ำมันดิบสำรองในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 สิงหาคม จะลดลง 12.7 ล้านบาร์เรล สต๊อกเบนซินจะลดลง 700,000 บาร์เรล และสต๊อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 870,000 บาร์เรล