เอเจนซีส์ – สิงคโปร์ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีตลอดทั้งปีนี้ โดยอ้างผลกระทบจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ที่ทำให้มูลค่าส่งออกลดลง นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณร้ายสำหรับประเทศในเอเชียที่พึ่งพาการผลิตเพื่อส่งออกเป็นสำคัญ
กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมสิงคโปร์ลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำปี 2019 ลงมาอยู่ที่ 0.0-0.1% จากเดิมที่คาดว่าจะโตได้ราวๆ 1.5-2.5% โดยเป็นการปรับลดคาดการณ์ครั้งที่ 2 ของปีนี้ หลังจากที่เศรษฐกิจสิงคโปร์เคยเติบโตถึง 3.2% ในปี 2018
จีดีพีไตรมาสสองของสิงคโปร์หดตัว 3.3% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งแม้จะยังต่ำกว่าตัวเลข 3.4% ที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ แต่ก็ถือว่าพลิกผันโดยสิ้นเชิงจากอัตราการขยายตัว 3.8% ในไตรมาสแรก
ทั้งนี้ จีดีพีช่วงไตรมาสสองยังมีการขยายตัวจากปีที่แล้วเพียง 0.1% ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี
เศรษฐกิจสิงคโปร์ค่อนข้างอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอก (external shocks) และมักเป็นประเทศแรกๆ ในเอเชียที่ได้รับผลกระทบเมื่อเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ขาลง ก่อนที่แรงกระเพื่อมจะถูกส่งต่อไปยังประเทศข้างเคียง
การปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสิงคโปร์ยิ่งกระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของลัทธิกีดกันการค้าที่มีต่อภาคการส่งออกและการผลิต ขณะที่เศรษฐกิจโลกซึ่งมีแนวโน้มย่ำแย่ลงทำให้ธนาคารกลางของแต่ละประเทศเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย และหันมาพิจารณาใช้มาตรการกระตุ้นต่างๆ เพื่อปกป้องเศรษฐกิจของตน
“การเติบโตของจีดีพีในตลาดส่งออกหลักๆ ของสิงคโปร์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2019 มีแนวโน้มที่จะลดลง หรือเทียบเท่ากับสถิติช่วงครึ่งปีแรก” กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมสิงคโปร์แถลงวันนี้ (13 ส.ค.) พร้อมระบุถึงปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมประท้วงในฮ่องกง, ข้อพิพาทระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้, สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน, ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจแดนมังกร รวมไปถึงผลกระทบจากการที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิต)
“ความไม่แน่นอนและปัจจัยเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจโลกเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ช่วง 3 เดือนที่แล้ว” กระทรวงพาณิชย์สิงคโปร์ระบุ โดยอ้างถึงกรณีที่ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศจะรีดภาษีเพิ่มเติมกับสินค้านำเข้าจีนมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์
“สถานการณ์เช่นนี้อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างรุนแรง และส่งผลเสียต่อการค้าและการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวม”
สิงคโปร์ได้รับผลกระทบหนักเป็นพิเศษจากภาวะชะลอตัวด้านอุปสงค์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ ซึ่งถือเป็นสินค้าส่งออกสำคัญที่ช่วยกระตุ้นภาคการผลิต
ธนาคารดีบีเอสของสิงคโปร์ชี้ว่า ประกาศหั่นคาดการณ์จีดีพีช่วยให้สิงคโปร์มีเหตุผลที่จะใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ