เอเจนซีส์ - มีรายงานเปิดเผยล่าสุดว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำ เมโทรโพลิแตน คอร์เร็กชัน เซ็นเตอร์ (Metropolitan Correctional Center) ยอมรับว่าไม่ได้ตรวจเช็ก เจฟฟรีย์ เอ็พสตีน นานไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่เขาจะเสียชีวิตจากการแขวนคอตายในห้องขังเช้าวันเสาร์(10 ส.ค) ทั้งๆที่ตามกฎของเรือนจำผู้คุมในยูนิตพิเศษมีหน้าที่ต้องเช็กนักโทษทุก 30 นาที
SFGATE สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(11 ส.ค)ว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดให้ข้อมูลว่า การ์ดเรือนจำความมั่นคงสูงรัฐนิวยอร์กที่ซึ่งเศรษฐีพันล้านชื่อดังวัย 66 ปี เจฟฟรีย์ เอ็พสตีน ถูกจำคุก ยอมรับว่าไม่ได้ทำการตรวจเช็กเขา “ไม่กี่ชั่วโมง” ก่อนที่เอ็พสตีนจะแขวนคอตายภายในห้องขังของตัวเอง กลายเป็นหนึ่งในความผิดพลาดจากหลายๆสิ่งที่นำไปสู่การเสียชีวิตของเขา
สื่อซานฟรานซิสโกชี้ว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำตามกฎของยูนิตเพิเศษของเรือนจำแล้วต้องตรวจผู้ต้องขังทุก 30 นาที ซึ่งเอ็พสตีนถูกส่งเข้ายูนิตพิเศษในเรือนจำ ความั่นคงสูง เมโทรโพลิแตน คอร์เร็กชัน เซ็นเตอร์ (Metropolitan Correctional Center) เมืองนิวยอร์ก ซิตี้
และในสถานการณ์ปกติเขาควรจะมีผู้ต้องขังคนอื่นอยู่ร่วมภายในห้องขัง อ้างอิงจากผู้ที่รู้ในเรื่องนี้ และสหภาพเจ้าหน้าที่เรือนจำ
แต่กลับพบว่าในวันศุกร์(9) นิโคลัส ทาร์ทาเกลียน(Nicholas Tartaglione) อดีตตำรวจที่มีข้อหาฆ่าคนตายและข้อหายาเสพติน เพื่อนร่วมห้องขังของเอ็พสตีนถูกย้ายออกไป และเป็นเหตุผลที่ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนกำลังอยู่ในระหว่างคุดคุ้ยในเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตามพบว่า เอ็พสตีนก่อนเสียชีวิตเขาไม่มีเพื่อนอ ร่วมห้องขังรายใหม่ถูกส่งเข้ามา
สื่อซานฟรานซิสโกชี้ว่า กลายเป็นเหตุผลทำให้เอ็พสตีนที่ก่อนหน้าอยู่ในรายชื่อผู้ต้องเฝ้าจับตาจากความเสี่ยงฆ่าตัวตาย กลับถูกปล่อยให้ต้องอยู่ตามลำพังและไม่ได้มีการมอนิเตอร์เป็นเวลาอย่างน้อยไม่กี่ชั่วโมงก่อนเขาเสียชีวิตจากบรรดาผู้คุมที่ถูกมอบหมาย
ทั้งนี้พบว่าในการรายงานเบื้องต้นของสำนักงานบริหารเรือนจำแห่งรัฐบาลกลางสหรัฐฯ BOP (Federal Bureau of Prisons) ระบุว่า การเสียชีวิตของเอ็พสตีนดูเหมือนเป็นการฆ่าตัวตาย
โดย SFGATE รายงานว่าเป็นการเสียชีวิตที่มาจากการแขวนคอตายภายในห้องขัง ซึ่งในเวลานี้ได้มีการเริ่มต้นการชันสูตรศพเอ็พสตีนแล้วแต่ยังไม่มีการเปิดเผยในรายละเอียดออกมา
โดย บาร์บารา แซมป์สัน (Barbara Sampson ) หัวหน้าแผนกนิติวิทยาศาสตร์เมืองนิวยอร์กเปิดเผยว่า ทางสำนักงานของเธอได้เริ่มต้นชันสูตรศพ "เจฟฟรีย์ เอ็พสตีน" ในวันอาทิตย์(11) แต่ยังไม่มีข้อสรุปถึงสาเหตุการเสียชีวิต
นอกจากนี้แซมป์สันยังเกิดเผยว่า ทางสำนักงานได้อนุญาตให้นักพยาธิวิทยาเอกชน ไมเคิล บาเดน ( Michael Baden) สามารถเข้าสังเกตระหว่างกระบวนการชันสูตรตามคำร้องขอของตัวแทนเอ็พสตีน
สื่อซานฟรานซิสโกรายงานว่า มีผู้คุม 2 คนที่ถูกมอบหมายให้ดูแลยูนิตพิเศษของเรือนจำต้องทำงานล่วงเวลา พบว่า 1 ในนั้นถูกสั่งให้ทำโดยจากฝ่ายบริหาร และคนที่ 2 ต้องทำงานติดต่อกัน 4 -5 วันแล้ว ประธานสหภาพแรงงานกล่าว และชี้แจงว่าเรือนจำความมั่นคงสูงแห่งนี้มีประสิทธิภาพทำงานลดน้อยกว่า 70% เนื่องมาจากมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ส่งผลทำให้ผู้คุมจำนวนมากต้องทำงานล่วงเวลา และต้องทำอย่างน้อย 60-70 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ของตามรางการทำงาน
อ้างอิงจากสมาชิกสหภาพและบุคคลที่ใกล้ชิดกับการสอบสวนพบว่า เจฟฟรีย์ เอ็พสตีน ไม่ได้อยู่ในรายชื่อกลุ่มเฝ้าระวังการฆ่าตัวตายเป็นเพราะเขาถูกส่งให้เข้าไปอยู่ในหน่วยพิเศษที่จำเป็นต้องมีผู้คุมตรวจเช็กทุก 30 นาที ซึ่งแหล่งข่าวเปิดเผยว่า แต่มีการพบว่ากระบวนการตรวจเช็กทุก 30 นาทีนี้ไม่เกิดขึ้น
เอ็พสตีนถูกส่งเข้ารายชื่อเฝ้าระวังฆ่าตัวตายหลังจากวันที่ 23 ก.คหลังจากมีการพบเขาพยายามที่จะปลิดชีพตัวเองโดยมีร่องรอยคล้ายการรัดบริเวณลำคอของเขา แต่ทว่า 1 สัปดาห์หลังจากนั้น เอ็พสตีนถูกนำตัวไปอยู่ที่ยูนิตพิเศษซึ่งมีการการตรวจเช็กเพิ่มขึ้นจากระดับปรกติ แต่ยังไม่ใช่การตรวจเช็กแบบตลอดเวลา