เอเจนซีส์ – ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยครั้งเลวร้ายในรัฐกรณาฏกะ, เกรละ และมหาราษฏระของอินเดียเพิ่มเป็นอย่างน้อย 147 รายเมื่อวานนี้ (11 ส.ค.) ขณะที่กระแสน้ำยังไหลหลากเข้าท่วมเมืองโบราณแห่งหนึ่งในรัฐกรณาฏกะซึ่งถูกยกเป็นมรดกโลก
ฝนในฤดูมรสุมที่เทกระหน่ำติดต่อกันหลายวันส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มหลายจุด ประชาชนนับแสนคนต้องละทิ้งบ้านเรือนไปอาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่รถไฟหลายสายต้องหยุดให้บริการเนื่องจากน้ำท่วมราง
รัฐเกรละทางตอนใต้ของอินเดียยืนยันวานนี้ (11) ว่าพบผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 57 รายจากภัยพิบัติที่เกี่ยวเนื่องกับฝน และมีชาวบ้านถูกอพยพไปยังศูนย์พักพิงมากกว่า 165,000 คน
“บ้านเรือนหลายหลังถูกฝังจมอยู่ใต้ดินโคลนลึก 10-12 ฟุต ซึ่งทำให้งานกู้ภัยเป็นไปอย่างยากลำบาก” พินารายี วิจายัน มุขมนตรีรัฐเกรละ แถลง
ภารกิจกู้ภัยน้ำท่วมยังเสี่ยงที่จะเผชิญอุปสรรคจากพายุฝนฟ้าคะนองซึ่งคาดว่าจะเทกระหน่ำซ้ำเติมพื้นที่รัฐเกรละอีก
รัฐแห่งนี้เพิ่งเผชิญมหาอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 100 ปีเมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งคร่าชีวิตพลเมืองไปกว่า 200 คน
ขณะเดียวกัน ซากเมืองโบราณฮัมปี (Hampi) ซึ่งเป็นโบราณสถานมรดกโลกในรัฐกรณาฏกะก็ถูกมวลน้ำจากเขื่อนกั้นแม่น้ำตุงคภัทรา (Tudgabhadra Dam) ไหลหลากเข้าท่วม โดยรัฐแห่งนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 60 ราย และต้องอพยพประชาชนไปอาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิงอีกเกือบ 227,000 คน ตามรายงานจาก บี.เอส. เยดิยูรัปปา มุขมนตรีรัฐกรณาฏกะ
นอกจากรัฐกรณาฏกะ, เกรละ และมหาราษฏระ ซึ่งได้รับผลกระทบจากอุทกภัยรุนแรงที่สุดในปีนี้แล้ว รัฐอื่นๆ ของอินเดีย เช่น คุชราต, อัสสัม และพิหาร ก็เผชิญความเสียหายรุนแรงจากน้ำท่วมเช่นเดียวกัน
สถานีวิทยุออลอินเดียรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่รัฐมหาราษฏระเริ่มคลี่คลาย โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 30 คน ส่วนการฟื้นฟูระบบรถไฟในพื้นที่น้ำท่วมคาดว่าจะต้องใช้เวลานานกว่า 2 สัปดาห์
พรรคฝ่ายค้านคองเกรสอินเดียเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี เร่งอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมอ้างรายงานจากสื่อว่าปีนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 446 คนจากเหตุอุทกภัยใน 6 รัฐ ซึ่งรวมถึงอัสสัม, พิหาร และคุชราต