xs
xsm
sm
md
lg

ล่อแหลม!!ปากีฯตะเพิดทูตอินเดีย,ปรับลดสัมพันธ์,ระงับการค้า ไทยเตือนพลเมืองเลี่ยงเยือนพื้นที่เสี่ยง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ทหารพรานอินเดียเดินลาดตระเวนรักษาความสงบเรียบร้อยบนถนนสายหนึ่งในศรีนาการ์ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. หลังจากรัฐบาลยกเลิกสถานะพิเศษของแคชเมียร์
เอเอฟพี/mgronline - ปากีสถานในวันพุธ(7ส.ค.) แถลงเตรียมขับไล่ทูตอินเดีย พร้อมประกาศจะปรับลดความสัมพันธ์ทางการทูตและระงับการค้าทวิภาคีกับคู่อริอย่างอินเดีย หลังจากนิวเดลียกเลิกสถานะพิเศษของแคชเมียร์ ซึ่งเป็นจุดแปลบปลาบพร้อมลุกไหม้เดือดพล่านในสายสัมพันธ์กับอิสลามาบัดมาอย่างยาวนาน ขณะที่สถานทูตเตือนคนไทยหลีกเลี่ยงพื้นที่พิพาทดังกล่าว

อินเดีย ยกเลิกสถานะพิเศษกึ่งปกครองตนเองของแคชเมียร์ ดินแดนเทือกเขาหิมาลัย ที่มีมาอย่างยาวนาน 7 ทศวรรษเมื่อวันจันทร์(5ส.ค.) ผ่านคำสั่งประธานาธิบดี ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากพวกเขาประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ดังกล่าว

พวกผู้เชี่ยวชาญคาดหมายว่าความเคลื่อนไหวของอินเดียจะก่อความขัดแย้งกับปากีสถาน ซึ่งก็อ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนดังกล่าวซึ่งมีชาวมุสลิมเป็นชนกลุ่มใหญ่เช่นกัน และจุดชนวนความไม่สงบรอบใหม่ที่เข่นฆ่าผู้คนไปแล้วหลายหมื่นชีวิต

เดลียืนกรานว่าความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นเรื่องภายใน แต่อิสลามาบัดเรียกร้องประชาคมนานาชาติให้เข้าแทรกแแซงและประกาศนำประเด็นนี้เข้าสู่ทีประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ

"เราจะเรียกเอกอัครราชทูตของเรากลับมาจากเดลีและส่งทูตของพวกเขากลับไป" ชาห์ เมห์มูด กูเรชี รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถานให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ในวันพุธ(7ส.ค.)

ความคิดเห็นของเขามีขึ้นในขณะที่รัฐบาลเผยแพร่ถ้อยแถลงระบุว่าปากีสถานจะระงับการค้ากับอินเดียและทบทวนความสัมพันธ์ทวิภาคีกับเดลี "วันนี้นายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติพื่อหารือเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวฝ่ายเดียวและไม่ชอบด้วยกฎหมายของรัฐบาลอินเดีย"

"คณะกรรมการตัดสินใจดำเนินการตามนี้ 1.ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับอินเดีย 2.ระงับการค้าทวิภาคีกับอินเดีย 3.ทบทวนข้อตกลงทวิภาคีต่างๆ 4.นำประเด็นนี้เข้าสู่สหประชาชาติ ในนั้นรวมถึงคณะมนตรีความมั่นคง" ถ้อยแถลงระบุ

คำแถลงบอกต่อว่า "ข่านสั่งการให้ใช้ช่องทางต่างๆทางการทูตทั้งหมดอย่างกระตือรือร้นเพื่อเปิดโปงความป่าเถื่อน, ระบอบแบ่งแยกชนชั้นปั่นแต่งและละเมิดสิทธิมนุษยชนของอินเดีย" พร้อมกันนั้นนายกรัฐมนตรีข่านยังร้องขอให้กองทัพอยู่ในความเฝ้าระวัง

แคชเมียร์ถูกแยกเป็น 2 ส่วนระหว่างปากีสถานและอินเดีย นับตั้งแต่อินเดียได้รับเอกราชในปี 1947 ทั้งสองประเทศต่างแย่งชิงกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนเทือกเขาหิมาลัย และทำสงครามสู้รบแย่งชิงกันมาแล้วถึง 3 ครั้ง

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี พวกเขาเฉียดเข้าสู่ขอบเหวแห่งสงครามอีกครั้ง หลังเกิดเหตุโจมตีนองเลือดในแคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของอินเดีย ซึ่งอ้างความรับผิดชอบโดยนักรบกลุ่มหนึ่งในปากีสถาน โหมกระพือใหเกิดการโจมตีทางอากาศตอบโต้กันมาเหนือดินแดนแถบภูเขาแห่งนี้

จากสถานการณ์ล่อแหลมดังกล่าว ในวันพุธ(7ส.ค.) ทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอิสลามาบัดได้ออกประกาศเตือนคนไทยเลี่ยงเดินทางไปเมืองอาซาดแคชเมียร์และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง หลังสถานการณ์พิพาทตึงเครียดอินเดียและปากีสถาน

ในคำประกาศระบุว่า ตามที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ รายงานเหตุการณ์ความรุนแรงตามแนวชายแดนปากีสถานและอินเดีย โดยเฉพาะบริเวณแนวเส้นควบคุม (Line of Control - LoC) ในเมือง Azad Kashmir และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง

สถานเอกอัคราชทูต ณ กรุงอิสลามาบัด ขอแจ้งเตือนคนไทยที่อยู่อาศัยอยู่ในปากีสถานและนักท่องเที่ยวที่มีกำหนดเดินทางมาท่องเที่ยว โปรดหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังเมือง Azad Kashmir และบริเวณแนวเส้นควบคุม เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอาจเกิดเหตุการณ์รุนแรงได้ตลอดเวลา โดยสามารถติดต่อสถานเอกอัคราชทูตฯ ได้ทางหมายเลข +92 315 900 9949 ตลอด 24 ชั่วโมง และทางเฟซบุ๊ก @Thai.islamabad จึงเรียนมาเพื่อโปรตทราบโดยทั่วกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น