รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - วอลล์สตรีทร่วงแรงในวันจันทร์ (5 ส.ค.) คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ถือว่าเป็นวันที่ปิดลบหนักที่สุดนับของปี 2019 ในขณะที่ค่าเงินหยวนดำดิ่ง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่รีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติม ปัจจัยนี้ดันทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี ส่วนน้ำมันปรับลด นักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์ที่ลุกลามบายปลายในสงครามการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง
ดาวโจนส์ ลดลง 767.27 จุด (2.90 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,717.74 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 87.31 จุด (2.98 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,844.74 จุด แนสแดค ลดลง 278.03 จุด (3.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,726.04 จุด
สกุลเงินหยวนอ่อนค่าลงสู่ 7 หยวนต่อดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี หลังธนาคารประชาชนจีนหรือธนาคารกลางจีนกำหนดอัตรากลางสุกลเงินหยวนประจำวันไว้ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน
ทรัมป์ เขียนบทวิตเตอร์เรียกความเคลื่อนไหวดังกล่าวของจีนว่าละเมิดและปั่นค่าเงินครั้งใหญ่
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนักลงทุน หลายคนมองว่าเคลื่อนไหวของสกุลเงินหยวนเป็นปฏิกิริยาตอบสนองโดยตรงคำแถลงของทรัมป์ที่ประกาศเรียกเก็บภาษี 10% สินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมอีก 300,000 ล้านดอลลาร์
การอ่อนค่าของหยวนและการแข็งค่าของดอลลาร์ เสี่ยงก่อความท้าทายแก่บริษัทต่างๆของสหรัฐฯที่มีธุรกิจในจีน เนื่องด้วยสินค้าของพวกเขาจะมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้บริโภคชาวจีน
นอกเหนือจากความตึงเครียดดังกล่าวแล้ว ในวันจันทร์ (5 ส.ค.) ทางกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่าบริษัทต่างๆของจีนได้หยุดซื้อสินค้าทางการเกษตรของสหรัฐฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และขู่ว่าปักกิ่งยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะกำหนดมาตรการรีดภาษีผลิตภัณฑ์จากฟาร์มอเมริกาที่ซื้อหลังจากวันที่ 3 สิงหาคม
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นตัวแทนล่าสุดของข้อพิพาททางการค้าที่ลุกลามบานปลายระหว่างจีนกับสหรัฐฯ หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ทรัมป์โวยวายว่าปักกิ่งไม่ทำตามสัญญาว่าจะซื้อสินค้าทางการเกษตรของสหรัฐฯ ในปริมาณมากและประกาศกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ มูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ เป็นผลให้ข้อตกลงสงบศึกทางการค้าระหว่างจีนและอเมริกาพังครืนลงอย่างฉับพลัน
ข้อพิพาททางการค้าที่ลุกลามระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และดันราคาทองคำในวันจันทร์ (5 ส.ค.) พุ่งแรงแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี โดยราคาทองสัญญาโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 19 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,464.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2013
ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์ (5 ส.ค.) ขยับลงตามตลาดทุน ด้วยมีความกังวลว่าสงครามการค้าที่ยืดเยื้อจะกัดเซาะอุปสงค์พลังงานโลก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 97 เซ็นต์ ปิดที่ 54.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 2.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แม้ตลาดเคลื่อนไหวในแดนลบในวันจันทร์ แต่เหล่านักวิเคราะห์เตือนว่ามาตรการคว่ำบาตรภาคพลังงานที่สหรัฐฯกำหนดเล่นงานอิหร่านและสถานการณ์ความยุ่งเหยิงในตะวันออกกลาง ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาน้ำมัน