นายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮาหมัด แห่งมาเลเซียยืนยันจะทำตามสัญญายกตำแหน่งผู้นำประเทศให้แก่นาย อันวาร์ อิบราฮิม หลังพรรคฝ่ายค้านออกมาเชียร์ให้อยู่โยงยาวจนครบวาระ 5 ปี ขณะที่บรรยากาศการเมืองแดนเสือเหลืองเริ่มคุกรุ่นหลังมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอซึ่งอ้างว่าเป็นรัฐมนตรีคนสำคัญกำลังมีเพศสัมพันธ์แบบชายรักชาย
อัซมิน อาลี รัฐมนตรีฝ่ายกิจการเศรษฐกิจมาเลเซีย ถูกกล่าวหาว่าเป็นบุคคลในคลิปซึ่งมีเซ็กซ์ทางทวารหนักกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งในโรงแรม ซึ่งเรื่องนี้ได้จุดชนวนความบาดหมางครั้งใหญ่ระหว่าง อัซมิน กับ อันวาร์ ประธานพรรค พีเพิลส์ จัสติส ปาร์ตี (PKR) พรรคการเมืองใหญ่สุดในกลุ่มแนวร่วมแห่งความหวัง (Pakatan Harapan - PH) ซึ่งเป็นรัฐบาลอยู่ในเวลานี้
อัซมิน ซึ่งมีตำแหน่งเป็นรองประธานพรรค PKR ยืนยันว่า คลิปดังกล่าวถูกทำขึ้นเพื่อป้ายสีตน โดยฝ่ายที่สนับสนุนเขาเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือพรรคพวกของอันวาร์
เหตุการณ์นี้ยังสะท้อนถึงความแตกแยกภายในพรรค PKR ซึ่งเวลานี้แบ่งออกเป็น 2 ขั้วใหญ่ๆ คือฝ่ายที่สนับสนุน อันวาร์ และฝ่ายที่เชียร์ อัซมิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนถัดไป
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าข้อครหาที่ อัซมิน เผชิญแทบไม่แตกต่างจากกรณีของ อันวาร์ ซึ่งเคยโดนข้อหามีเซ็กซ์กับผู้ช่วยชายจนถูกศาลสั่งจำคุกมาแล้วถึง 2 ครั้ง
อันวาร์ เรียกร้องให้ อัซมิน ซึ่งเป็นลูกศิษย์ทางการเมืองของตนลาออกเสีย หากพิสูจน์ได้ว่าเขาคือชายที่ปรากฏอยู่ในคลิปเกย์เซ็กซ์จริง ขณะที่รัฐมนตรีหนุ่มใหญ่วัย 54 ปี ก็ออกมาตอบโต้ โดยบอกให้ อันวาร์ "กลับไปส่องกระจกดูเงาตัวเอง" ซึ่งเป็นการตอกย้ำข้อหารักร่วมเพศที่ยังเป็นชนักติดหลัง อันวาร์ อยู่ แม้เขาจะได้รับพระราชทานอภัยโทษจากสมเด็จพระราชาธิบดีมาเลเซียแล้วหลังจากที่ มหาเธร์ กลับมาเป็นนายกฯ ก็ตาม
ข่าวการจับกุม ฟาร์ฮัช วาฟา ซัลวาดอร์ ริซาล มูบารัก เลขานุการของ อันวาร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยิ่งทำให้หลายคนสงสัยว่าคลิปเกย์เซ็กซ์อาจถูกทำขึ้นโดยฝ่ายที่ต้องการดิสเครดิต อัซมิน
มหาเธร์ ได้โพสต์ข้อความลงในบล็อกส่วนตัว ระบุว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังคลิปฉาวนี้จงใจใช้ตนเป็นเครื่องมือขัดขวางความเจริญก้าวหน้าของใครบางคน
"เขาหวังว่าคลิปนี้จะทำให้ผมประกาศว่าบุคคลที่ตกเป็นเป้าหมายหมดคุณสมบัติ แต่ผมจะไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของผู้บงการ ซึ่งมีเจตนาชั่วร้าย และเล่นการเมืองแบบสกปรก"
กลุ่มฝ่ายค้านซึ่งประกอบด้วยพรรคอิสลามมาเลเซีย (Malaysian Islamic Party - PAS) และพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) ออกมาเรียกร้องเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้ มหาเธร์ ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ต่อไปจนกว่าจะครบเทอม
"พรรค PAS และอัมโนมีจุดยืนร่วมกันว่า เราจะปกป้องความเป็นผู้นำของ ดร.มหาเธร์ จนกว่าจะมีการเลือกตั้งครั้งถัดไป" อับดุลฮาดี อาวัง ประธานพรรค PAS ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฮาราเกาะห์ซึ่งเป็นสื่อของพรรคตนเอง
อัซมิน ได้ออกมาแถลงชื่นชมไอเดียของฝ่ายค้านในวันจันทร์ (29 ก.ค.) และเรียกร้อง มหาเธร์ ว่าอย่าเพิ่งด่วนมอบอำนาจให้แก่ อันวาร์ ตามสัญญา
“ผมยินดีอย่างยิ่งเมื่อได้ฟังคำแถลงของ ฮาดี อาวัง ประธานพรรค PAS ซึ่งระบุว่าพรรค PAS และอัมโนพร้อมจะให้การสนับสนุน ตุน มหาเธร์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปจนกว่าจะครบเทอม” อัซมิน ระบุ
เขาให้เหตุผลว่ามาเลเซียจำเป็นต้องมี มหาเธร์ เป็นนายกฯ เพื่อค้ำประกันเสถียรภาพและความสอดคล้องต่อเนื่องของนโยบาย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการลงทุน การจ้างงาน “และนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ชาวมาเลเซียทุกคน"
อัซมิน ระบุด้วยว่า การสนับสนุนจากฝ่ายค้านจะนำไปสู่ “ยุคสมัยแห่งความร่วมมือระหว่าง 2 ขั้วการเมือง” ซึ่งจะช่วยให้แผนปฏิรูปสถาบันต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้เชี่ยวชาญการเมืองมาเลเซียชี้ว่า เหตุจูงใจสำคัญที่ทำให้พรรค PAS และอัมโนหันมายุให้ มหาเธร์ ครองอำนาจยาวก็เพราะต้องการสร้างความแตกแยกภายในกลุ่มแนวร่วมแห่งความหวัง และที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือความ “เกรงกลัว” บารมีของ อันวาร์ ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวอิสลามหัวก้าวหน้าที่มีฐานเสียงมุสลิมอยู่อย่างเหนียวแน่น ดังนั้น การถ่ายโอนอำนาจในช่วงใกล้เลือกตั้งอาจจะทำให้ฝ่ายค้านมีโอกาสพลิกกลับมาชนะได้มากกว่าปล่อยให้ อันวาร์ เริ่มสร้างอิทธิพลตั้งแต่ตอนนี้
ด้วยการนำของ มหาเธร์ ทำให้กลุ่มแนวร่วมแห่งความหวังสามารถโค่นรัฐบาล บาริซาน เนชันแนล (บีเอ็น) ที่มีพรรคอัมโนเป็นแกนนำได้สำเร็จในศึกเลือกตั้งเมื่อปี 2018 โดย มหาเธร์ ให้สัญญาว่าจะเป็นนายกฯ อยู่เพียง 1-2 ปี ก่อนจะส่งไม้ต่อให้แก่ อันวาร์ ซึ่งเคยเป็นรองนายกฯ ของเขาในช่วงปี 1993-1998
อย่างไรก็ดี ผู้นำเสือเฒ่าซึ่งปกครองมาเลเซียอยู่นานถึง 22 ปีระหว่างปี 1981-2003ไม่เคยระบุชัดเจนว่าจะลงจากเก้าอี้นายกฯ ในวันและเวลาใด
แหล่งข่าววงในเชื่อว่า มหาเธร์ เริ่มลังเลที่จะสละอำนาจให้แก่ อันวาร์ และกำลังวางแผนเงียบๆ ที่จะดัน อัซมิน ขึ้นเป็นนายกฯ คนใหม่ ซึ่งกระแสข่าวนี้ได้ก่อให้เกิดความแตกแยกขึ้นภายในพรรค PKR
ผู้สังเกตการณ์บางรายมองไปถึงขั้นที่ว่า มหาเธร์ ต้องการสั่งสมอำนาจบารมีไว้ให้แก่ มุคริซ มหาเธร์ บุตรชายซึ่งกำลังก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญภายในพรรค Parti Pribumi Bersatu Malaysia (PPBM) ที่เป็น 1 ใน 2 พรรคใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมแห่งความหวัง
ล่าสุด มหาเธร์ ได้ออกมาปฏิเสธเสียงร่ำลือเหล่านี้ โดยยืนยันต่อสถานีโทรทัศน์ TRT ของตุรกีว่า ตนมีความตั้งใจจริงที่จะยกตำแหน่งผู้นำมาเลเซียให้แก่อันวาร์
ผู้สื่อข่าว TRT ได้สอบถาม มหาเธร์ เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ อันวาร์ ซึ่งเคยเป็นทั้งลูกศิษย์, ศัตรูการเมือง ก่อนจะหวนกลับมาเป็นพันธมิตรกันอีกครั้ง ซึ่ง มหาเธร์ ก็ตอบชัดเจนว่า “ผมรับปากไปแล้วว่าเมื่อผมลงจากตำแหน่ง เขาจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป”
“นี่คือคำสัญญาของผม และผมจะรักษาสัญญา ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม”
อย่างไรก็ดี มหาเธร์ ยอมรับว่ากรอบเวลาในการเปลี่ยนตัวนายกฯ “ยังยากที่จะคาดเดาได้”
“เวลานี้สถานการณ์บ้านเมืองกำลังดีขึ้นในหลายๆ ด้าน และผมคิดว่าภายใน 1-2 ปีนี้ เราจะสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้มากมาย เพื่อให้มาเลเซียกลับมาประสบความสำเร็จอย่างที่เคยเป็น”