รอยเตอร์ - ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่มีกำหนดเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศในสัปดาห์นี้ ให้สัมภาษณ์ระหว่างอยู่บนเครื่องบินมาที่กรุงเทพฯ ว่า เขาหวังจะใช้โอกาสที่จะได้พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่กรุงเทพฯ เพื่อจะช่วยสมานรอยร้าวระหว่างสองชาติให้สำเร็จ
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (31 ก.ค.) ว่า ก่อนการขึ้นเครื่องจากฐานทัพอากาศแอนดรูว์ส (Joint Base Andrews) รัฐแมรีแลนด์ว่า เขาจะพยายามหว่านล้อมสองชาติพันธมิตรเอเชียได้แก่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ให้หาหนทางเดินหน้าออกมาจากความขัดแย้งทางการทูตเมื่อเขาพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองชาติในสัปดาห์นี้
รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้แถลงเมื่อวานนี้ (30) ว่า เกาหลีใต้พร้อมรับการตัดสินใจของญี่ปุ่นในการนำเกาหลีใต้ออกจากบัญชีขาวที่มีการจำกัดทางการค้า ซึ่งคาดว่าจะสามารถเกิดขึ้นได้เร็วสุดในวันศุกร์ (2)
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้ประกาศจำกัดการส่งออกซัพพลายด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของชิ้นส่วนบางส่วนไปยังเกาหลีใต้ก่อนหน้าแล้ว ซึ่งถูกมองว่าเป็นการตอบโต้คำสั่งศาลเกาหลีใต้ที่ตัดสินออกคำสั่งให้ญี่ปุ่นต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับแรงงานทาสเกาหลีใต้ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตันชี้ว่า ทางสหรัฐฯเสนอให้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ลงนามในสัญญาข้อหยุดนิ่งเพื่อซื้อเวลาให้ทั้งสองฝ่ายมีโอกาสเจรจา
รอยเตอร์ชี้ว่า พอมเพโอจะมีโอกาสพบรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นและของเกาหลีใต้ในการหารือแบบทวิภาคี ก่อนที่จะร่วมเจรจา 3 ฝ่ายในการประชุมนอกรอบของการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ARF (Association of Southeast Asian Nations Regional Forum) ที่กรุงเทพฯ
โดยพอมเพโอกล่าวบนเครื่องบินในวันอังคาร (30) ว่า “เราขอกระตุ้นพวกเขาให้หาหนทางเดินไปข้างหน้า” และเสริมต่อว่า “ชาติทั้งสองต่างเป็นพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ของเรา ทั้งคู่ต่างทำงานร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับเราในความพยายามการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ ซึ่งหากว่าทางเราสามารถช่วยเหลือชาติเหล่านี้ในการมองเห็นถึงข้อดีของกันและกัน เราจะถือว่าสิ่งนี้มีความสำคัญสำหรับสหรัฐฯ”
ด้านเลขาธิการคณะ ครม.ญี่ปุ่น โยชิฮิเดะ ซูงะ ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องข้อตกลงหยุดนิ่งของสหรัฐฯ ว่า เขาทราบจากการรายงานถึงข้อตกลงนี้ แต่ยังไม่ทราบถึงรายละเอียด
อย่างไรก็ตาม เขาชี้ถึงเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เสื่อมทรามว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้อยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเป็นเพราะการกระทำในแง่ลบของเกาหลีใต้เอง” พร้อมชี้ว่า สำหรับญี่ปุ่นไม่มีการเปลี่ยนแปลงในจุดยืน แต่ซูงะเรียกร้องให้ทางเกาหลีใต้เปลี่ยนท่าทีให้เป็นไปในแนวทางที่สร้างสรรค์
ทั้งนี้ พบว่าปีที่ผ่านมาศาลเกาหลีใต้ได้ออกคำตัดสินให้บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับเหยื่อแรงงานทาสเกาหลีใต้ที่ถูกบังคับให้ทำงานที่โรงงานญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ช่วงระหว่างที่ญี่ปุ่นบุกยึดคาบสมุทรเกาหลีระหว่างปี 1910-1945
และส่งผลทำให้ญี่ปุ่นตอบโต้ด้วยการใช้มาตรการจำกัดการส่งออกในวัตถุดิบทางเทคโนโลยีชั้นสูงที่สำคัญในด้านการผลิตชิปเมโมรีและจอไปยังเกาหลีใต้