จีนย้ำหนุน รบ.ฮ่องกง-จี้ลงโทษม็อบหัวรุนแรง ระบุตะวันตกชักใยมุ่งสกัด “ปักกิ่ง” เติบโต

เอเจนซีส์ - จีนแถลงย้ำสนับสนุนผู้นำและตำรวจของฮ่องกง พร้อมกำชับเร่งลงโทษผู้ก่อความรุนแรง หลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมีการปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจ นอกจากนั้นปักกิ่งยังกล่าวหาว่า วิกฤตการเมืองฮ่องกงเป็นฝีมือตะวันตกที่หวังขัดขวางการพัฒนาของจีนซึ่งจะไม่มีทางทำสำเร็จ ขณะเดียวกันสื่อแดนมังกรบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในฮ่องกงขณะนี้มีลักษณะเหมือน “การปฏิวัติสี” ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือที่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลในท้องถิ่นสมคบกับ “คนนอก” โค่นล้มรัฐบาล

สภาพท้องถนนบางสายของฮ่องกงในตอนเช้าวันจันทร์ (29 ก.ค.) ยังคงกลาดเกลื่อนไปด้วยซากหมวกกันน็อค ร่ม และขวดน้ำ หลังการประท้วงที่ลุกลามเป็นความรุนแรงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นสุดสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกันแล้วที่เกิดความไม่สงบเช่นนี้

ช่วงเวลาราวสองเดือนที่ผ่านมา ตอนแรกๆ ประชาชนนับล้านในฮ่องกงร่วมชุมนุมอย่างสันติบนท้องถนนเพื่อต่อต้านร่างแก้ไขกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน จากนั้นก็บานปลายเป็นการใช้ความรุนแรงกันมากขึ้นทั้งโดยฝ่ายตำรวจและฝ่ายผู้ประท้วง

การประท้วงหลายครั้งทำให้หลายส่วนของย่านการเงินเป็นอัมพาต ที่ทำการของหน่วยงานรัฐบาลปิดทำการ และธุรกิจหยุดชะงักทั่วเมือง เจ้าหน้าที่เตือนว่า สถานการณ์วุ่นวายอาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจฮ่องกง

ทางด้านปักกิ่ง ยังคงยืนหยัดสนับสนุนแครี่ ลัม ผู้บริหารสูงสุดของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ล่าสุดในวันจันทร์(29) หยาง กวง โฆษกของสำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลส่วนกลางในปักกิ่งที่ดูแลรับผิดชอบเขตพิเศษทั้ง 2 แห่งอันเป็นอดีตอาณานิคมของอังกฤษและของโปรตุเกสตามลำดับ ได้แถลงย้ำให้การสนับสนุนลัมและสำนักงานตำรวจฮ่องกง


ในการแถลงข่าวคราวนี้ที่ปักกิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่นานๆ จะเกิดขึ้นสักที โฆษกของสำนักงานอันมีอำนาจเทียบเท่าหน่วยงานสังกัดคณะรัฐมนตรีจีนแห่งนี้ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับฮ่องกงคือการจัดการกับสถานการณ์รุนแรงตามกฎหมาย พร้อมกล่าวหาบุคคลที่ไร้ความรับผิดชอบในตะวันตกยุแยงสร้างปัญหาเพื่อขัดขวางการพัฒนาของจีน ซึ่งจะไม่มีวันทำได้สำเร็จ

เขาบอกว่า การก่อความรุนแรงซึ่งเป็นฝีมือของพวกสุดโต่งไม่กี่คน ที่บ่อนทำลายความมั่งคั่งและเสถียรภาพของฮ่องกงอย่างรุนแรง รวมทั้งพื้นฐานของหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ”

สำหรับคำถามที่ว่า กองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) จะเข้าแทรกแซงฮ่องกงภายใต้สถานการณ์ใดนั้น หยางตอบโดยอ้างอิงรัฐธรรมนูญของฮ่องกงที่มีชื่อเรียกว่า กฎหมายพื้นฐาน ซึ่งระบุว่า รัฐบาลฮ่องกงสามารถขอให้กองทหารรักษาการณ์ของพีแอลเอที่ประจำอยู่บนเกาะช่วยควบคุมความสงบเรียบร้อยได้

เขายังบอกอีกว่า รัฐบาลและประชาชนฮ่องกงต้องคิดค้นวิธีที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเพื่อช่วยให้คนหนุ่มสาวรับมือความวิตกกังวลเกี่ยวกับที่พักอาศัย การจ้างงาน และปัญหาอื่นๆ

สือ ลู่อิง โฆษกหญิงของสำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊า ซึ่งร่วมในการแถลงข่าวคราวนี้ด้วย ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ภารกิจสำคัญอันดับแรกของฮ่องกงคือ การลงโทษผู้ก่อความรุนแรงและทำผิดกฎหมายเพื่อฟื้นความสงบเรียบร้อยโดยเร็วที่สุด รวมทั้งการรักษาสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อธุรกิจ

ในอีกด้านหนึ่ง บทบรรณาธิการฉบับวันจันทร์ของหนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ อันเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษของทางการจีน ได้แสดงความคิดเห็นสะท้อนความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นของปักกิ่งโดยระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในฮ่องกงขณะนี้ไม่ใช่การแสดงออกถึงความคับข้องใจ ไม่ว่าจะเป็นความคับข้องที่แท้จริงหรือที่จินตนาการ แต่มีสีสันเดียวกับ “การปฏิวัติสี” ที่ถูกยุยงปลุกปั่นให้เกิดขึ้นในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ มันหมายถึงการที่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลในท้องถิ่นสมคบคิดกับกลุ่มอำนาจภายนอกเพื่อโค่นล้มรัฐบาล โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่เพื่อปล่อยข่าวลือ สร้างความไม่ไว้วางใจและความกลัว


สำหรับ เหตุการณ์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งวันเสาร์ (27) และวันอาทิตย์ (28)ได้เกิดเหตุปะทะในหลายจุดระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจที่ใช้กระสุนยางและแก๊สน้ำตายับยั้งผู้ประท้วงที่ใช้ความรุนแรงมากขึ้น

ตำรวจยังได้เข้าปกป้องสำนักงานตัวแทนของปักกิ่งจากพวกผู้ประท้วงซึ่งพยายามบุกโจมตีเป็นสุดสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ด้วยการนำเครื่องกีดขวางมาล้อมรอบอาคาร

มีรายงานระบุว่าเจ้าหน้าที่จับกุมประชาชนอย่างน้อย 49 คนในวันอาทิตย์ จากความผิดต่างๆ เช่น ชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต ครอบครองอาวุธร้ายแรง

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมานี้ถือเป็นวิกฤตการเมืองครั้งร้ายแรงที่สุดนับจากที่ฮ่องกงคืนกลับสู่อ้อมอกจีนเมื่อ 22 ปีที่แล้ว และยังเป็นการท้าทายครั้งใหญ่ต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน นับจากเข้ารับตำแหน่งในปี 2012

ในวันจันทร์ สมาคมหอการค้าอเมริกันในฮ่องกงแถลงโดยอ้างอิงผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ชุมชนธุรกิจระหว่างประเทศมองโลกแง่ร้ายเกี่ยวกับแนวโน้มระยะสั้นของเกาะแห่งนี้ เนื่องจากความรุนแรงและภาวะชะงักงันทางการเมือง และเห็นว่า ฮ่องกงเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยน้อยลงแต่เสี่ยงมากขึ้นในการทำธุรกิจ

เฟอร์นันโด เฉิง สมาชิกรัฐสภาจากพรรคแรงงานที่พยายามเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยระหว่างนักเคลื่อนไหวกับตำรวจ ชี้ว่า ลัมต้องยอมตามข้อเรียกร้องของผู้ประท้วงในการยกเลิกร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็นการถาวร และจัดตั้งคณะกรรมการอิสระ ฯลฯ ไม่เช่นนั้นสถานการณ์อาจรุนแรงยิ่งขึ้น รวมทั้งอาจมีผู้เสียชีวิต รัฐบาลต้องประกาศเคอร์ฟิว หรือกระทั่งกองทัพจีนเข้ามาแทรกแซง