เอเจนซีส์ - ฮ่องกงยกระดับการรักษาความปลอดภัยในวันอาทิตย์ (28 ก.ค.) ที่บริเวณสำนักงานผู้แทนของจีนแผ่นดินใหญ่ในฮ่องกง เนื่องจากผู้คนเริ่มมารวมตัวกันเพื่อประท้วงอีกครั้ง ด้วยความไม่พอใจต่อสิ่งที่ผู้ประท้วงหลายคนมองว่าเป็นการใช้ความรุนแรงต่อพวกเขา
เจ้าหน้าที่ ระบุว่า มีผู้ถูกจับกุม 11 คนในวันเสาร์ จากข้อหาต่างๆ รวมถึงการทำร้ายร่างกาย การครอบครองอาวุธ และการชุมนุมที่ผิดกฎหมายในเขตหยวนหลง ทางตอนเหนือของฮ่องกง ซึ่งใกล้กับชายแดนกับจีน
เมื่อวันเสาร์ มีการชุมนุมในหยวนหลง ประท้วงต่อต้านการทำร้ายผู้ชุมนุมที่สถานีรถไฟเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยสงสัยว่าเป็นฝีมือของพวกสมาชิกแก๊งนักเลงอั้งยี่
การประท้วงเมื่อวันเสาร์จบลงด้วยความโกลาหล ตำรวจปราบจลาจลได้เข้าสลายกลุ่มผู้ประท้วง โดยใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และเครื่องยิงลูกระเบิดหัวฟองน้ำที่ใช้ในการควบคุมเหตุจลาจล
ต่อมาตำรวจได้บุกสถานีรถไฟที่เคยเกิดเหตุแก๊งนักเลงอั้งยี่ทำร้ายผู้ประท้วงเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยทางตำรวจมีการใช้กระบองทุบตีผู้ประท้วง ทำให้มีผู้ประท้วงบางรายเลือดไหล
เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล เปิดเผยว่า ในวันเสาร์มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 คน ในจำนวนนั้นมีสองรายอาการหนัก
ในบรรดาผู้ประท้วงหลายพันคน มีหลายคนสวมชุดดำ มารวมตัวกันในสวนสาธารณะใจกลางเมืองในวันอาทิตย์ (28 ก.ค.) ก่อนที่จะเริ่มการเดินขบวนเพื่อประท้วงต่อต้านข้อจำกัดและการใช้กำลังของตำรวจ
เมื่อวันอาทิตย์ของสัปดาห์ที่แล้ว ผู้ประท้วงพากันไปล้อมสำนักงานผู้แทนของจีนแผ่นดินใหญ่ในฮ่องกง แถมทำลายป้าย สร้างความไม่พอใจต่อจีน
สื่อของทางการจีน ระบุว่า เป็นการท้าทายที่โจ่งแจ้งต่อรัฐบาลกลาง ซึ่งไม่อาจยอมรับได้ โดยในวันอาทิตย์มีการทำแนวป้องกันรอบตัวอาคารสำนักงานผู้แทนฯ รวมถึงมีการลงกาวก้อนอิฐที่ทางเท้าเพื่อไม่ให้ถูกดึงออกมาขว้างปา
มีการนำโล่พลาสติกใสมาครอบสัญลักษณ์ประจำชาติที่ถูกทำลายไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่ตำรวจปราบจลาจลส่วนหนึ่งประจำการอยู่ภายในตัวอาคาร และมีรถบัสขนาดใหญ่ซึ่งภายในมีตำรวจปราบจลาจล จอดอยู่ตามถนนละแวกนั้น
การประท้วงในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาได้ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่ร้ายแรงที่สุดสำหรับฮ่องกง นับตั้งแต่พ้นจากการปกครองของอังกฤษ กลับสู่อ้อมอกประเทศจีนในปี 1997 ภายใต้ข้อตกลงที่รับประกันสิทธิพิเศษและการปกครองตนเอง
เหตุการณ์เริ่มขึ้นจากการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศจีนเพื่อการพิจารณาคดี จากนั้นข้อเรียกร้องได้เพิ่มขึ้น จนถึงขั้นให้ แคร์รี ลัม ผู้นำฮ่องกงลาออกจากตำแหน่ง เรียกร้องประชาธิปไตย และการสืบสวนเอาผิดกรณีตำรวจใช้กำลังกับผู้ประท้วง