เอเอฟพี - เศรษฐกิจสหรัฐฯแตะเบรกในไตรมาส 2 ขณะที่กิจกรรมภาคอุตสาหกรรมมีความไม่แน่นอนมากขึ้นและยอดส่งออกลดลง อย่างไรก็ตามตัวเลขเศรษฐกิจของอเมริกายังถือว่าดีกว่าชาติพัฒนาแล้วประเทศอื่นๆ จากข้อมูลของรัฐบาลที่เปิดเผยในวันศุกร์(26ก.ค.)
เจ้าหน้าที่ยังปรับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจเมื่อปีที่แล้วลง จากข้อมูลใหม่ๆที่เข้ามา โดยปรับลดจีดีพีปี 2018 เหลือเติบโต 2.5% ตีแสกหน้าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มักโอ้อวดบ่อยครั้งว่าเศรษฐกิจของประเทศเติบโตเกินกว่า 3.0% เมื่อปีก่อน
ข้อมูลใหม่ที่ครอบคลุมช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าแท้จริงแล้วเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลกแห่งชี้ได้เกิดชะลอตัวในขวบปีหลังจาก ทรัมป์ ผลักดันปฏิรูปภาษีอย่างกว้างขวาง
ขณะเดียวกันข้อมูลอัพเดทนี้ยังเน้นย้ำให้เห็นถึงช่วงเวลาแห่งความถดถอยในช่วงเดือนท้ายๆของปี 2018 ที่ทางธนาคารกลางสหรัฐฯปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมินเฉยต่อแรงกดดันอันหน่วงหน่วงจากประธานาธิบดี
คาดหมายว่าที่ประชุมของธนาคารกลางแห่งนี้ในสัปดาห์หน้า จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง หลังจากตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯรายงานว่าจีดีพีไตรมาส 2 ระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ชะลอตัวลงสู่ 2.1% จากระดับ 3.1%ของช่วงไตรมาสแรก แต่ก็ถือว่ายังดีกว่าที่คาดหมายไว้ ได้แรงพยุงจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง
พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าเศรษฐกิจไตรมาส 2 ของสหรัฐฯน่าจะเติบโตเพียง 1.8% แต่เศรษฐกิจมาได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่งในด้านยานยนต์,อาหารและเสื้อผ้า
ตัวเลขการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางก็พุ่งสูงสุดในรอบทศวรรษเช่นกัน ด้วยการใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับด้านกลาโหมเพิ่มขึ้นในอัตราร้อนแรงที่สุดในรอบ 21 ปี อย่างไรก็ตามมันไม่ถือว่าน่าประหลาดใจเท่าไหร่ เพราะเป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลกลับมาจ่ายค่าจ้างอีกครั้ง หลังประสบปัญหาชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลเป็นเวลา 5 สัปดาห์ในช่วงต้นปี
กระนั้นก็ดีมันไม่เพียงพอที่จะผลักดันเศรษฐกิจ จากตัวเลขการลงทุนตามโรงงานต่างๆที่ดำดิ่งมากกว่า 10% และรายได้ที่ลดลงจากค่าสิทธิซอฟต์แวร์และทรัพย์สินทางปัญหาอื่นๆ
ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้อุปสงค์ต่างชาติสำหรับสินค้าส่งออกของสหรัฐฯอ่อนแอ และนั่นหมายความว่าโรงงานต่างๆของอเมริกาขายรถยนต์, ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตามโรงงานได้น้อยลงตามไปด้วย
ในการทบทวนอัพเดทข้อมูลใหม่ย้อนกลับไปจนถึงไตรมาสสุดท้ายของปี 2013 ทางกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯบอกว่าจากข้อมูลทีผ่านการแก้ไขและข้อมูลใหม่ที่เข้ามา พบว่าเศรษฐกิจช่วงระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2018 อ่อนแอกว่าที่รายงานก่อนหน้านี้อย่างมาก โดยเฉพาะในด้านการใช้จ่ายด้านประกันสุขภาพและยานยนต์
ทั้งนี้ในไตรมาส 4 ของปี 2018 เศรษฐกิจขยายตัวเพียง 1.1% ปรับลดจากระดับ 2.2% จากที่รายงานเมื่อเดือนมีนาคม
ผลก็คืออัตราการเติบโตระหว่างไตรมาส 4 ของปี 2017 ถึงไตรมาส 4 ของปี 2018 มาตรวัดการเติบโตรายปีที่ทางทำเนียบขาวและนักเศรษฐศาสตร์หลายคนชอบใช้ ถูกหั่นลงเหลือ 2.5% จากเดิม 3.0%
การปรับลดดังกล่าวถือเป็นการหักหน้าประธานาธิบดีทรัมป์ ที่มักหยิบยกการเติบโตทางเศรษฐกิจ 3.0% โอ้อวดบ่อยครั้งระหว่างปรากฏต่อสาธารณชนและบนสื่อสังคมออนไลน์ ว่าเป็นผลงานทางเศรษฐกิจที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรอบ 14 ปี
ในเอกสารนโยบาย ทำเนียบขาวอ้างว่าวาระเศรษฐกิต่างๆของประธานาธิบดี ทั้งหั่นภาษี, ปรับลดกฎระเบียบต่างๆและการปฏิรูปการค้าจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐฯให้เติบโตระดับ 3% มากกว่าทศวรรษ อย่างไรก็ตามข้อเท็จจริงก็คือเศรษฐกิจเคยขยายตัวในระดับ 2.8% ในปี 2017 ก่อนหน้ามาตรการปรับลดภาษีมีผลบังคับใช้และนับตั้งแต่นั้นดูเหมือนเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงด้วยซ้ำ