เอเจนซีส์ - ปั๊มน้ำมันและอู่ซ่อมรถหลายแห่งในเกาหลีใต้เริ่มปฏิเสธที่จะให้บริการแก่รถยนต์ญี่ปุ่น ท่ามกลางการรณรงค์บอยค็อตต์สินค้าจากแดนอาทิตย์อุทัยที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากข้อพิพาททางการค้าและการเมือง
ความสัมพันธ์ทางการทูตที่เสื่อมทรามลงยังส่งผลต่อยอดขายทัวร์ไปญี่ปุ่น, เบียร์นำเข้าจากญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งตั๋วเข้าชมภาพยนตร์การ์ตูนนักสืบแอนิเมชั่นอย่าง Butt Detective the Movie ในขณะที่ชาวเกาหลีใต้จำนวนมากก็ไปร่วมชุมนุมประท้วงที่ด้านนอกสถานทูตญี่ปุ่นประจำกรุงโซล
กระแสต้านญี่ปุ่นในแดนโสมเริ่มปะทุรุนแรงขึ้นหลังจากที่โตเกียวเริ่มใช้มาตรการคุมเข้มส่งออกเคมีภัณฑ์ที่จำเป็นในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์มายังเกาหลีใต้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. เพื่อแก้แค้นที่ศาลเกาหลีใต้พิพากษาให้บริษัทญี่ปุ่นจ่ายเงินชดเชยแก่แรงงานทาสในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เมื่อต้นเดือนนี้ มีคนจำนวนมากแห่เข้าไปคอมเมนต์ในเพจของสมาคมปั๊มน้ำมันเกาหลีใต้ (Korea Oil Station Association) โดยเรียกร้องให้ทางปั๊มปฏิเสธให้บริการแก่ลูกค้าที่ใช้รถยนต์ญี่ปุ่น ขณะที่กลุ่มพันธมิตรอู่ซ่อมรถก็ประกาศเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ว่าจะไม่รับซ่อมรถยนต์ญี่ปุ่นเช่นกัน
เจ้าของปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ เดอะ โคเรีย ไทม์ส ว่า เห็นรถยนต์ญี่ปุ่นทีไรก็เหมือนเห็น “ธงชาติญี่ปุ่น” ขณะที่อีกคนหนึ่งเชื่อว่ามาตรการบอยค็อตต์จะทำให้ชาวเกาหลีที่คิดจะซื้อรถยนต์ญี่ปุ่นเปลี่ยนใจไปเลือกยานพาหนะจากแหล่งอื่นๆ
ยอดขายเบียร์ญี่ปุ่นในเกาหลีใต้ลดลงประมาณ 40% ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่เบียร์นำเข้าจากประเทศอื่นๆ มียอดขายเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี ร้านสะดวกซื้อ CU เผยว่ายอดจำหน่ายเบียร์เกาหลีเพิ่มขึ้นแค่ 2.8% ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าแม้แต่ค่านิยมรักชาติก็ยังมีขีดจำกัด
นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ที่จองตั๋วเดินทางไปญี่ปุ่นลดลงถึง 70% ขณะที่บริษัททัวร์หลายแห่งก็โอดครวญว่ามีลูกค้าติดต่อมาขอยกเลิกการจองแล้วถึง 50%
อย่างไรก็ตาม เริ่มมีเสียงเตือนว่าการรณรงค์ในลักษณะนี้ไม่ต่างอะไรกับชาวเกาหลีทำร้ายกันเอง
เว็บข่าวออนไลน์ E Today เตือนว่า “เราไม่มีทางชนะสงคราม หากยังไม่รู้ว่าผู้ที่เรายิงเป็นมิตรหรือศัตรู... คนที่จะเดือดร้อนจากการที่ปั๊มไม่ยอมเติมน้ำมันให้รถยนต์ญี่ปุ่น ไม่ใช่รัฐบาลญี่ปุ่น แต่เป็นเจ้าของรถ และหากเจ้าของรถไม่ไปเติมน้ำมัน ก็ไม่ใช่รัฐบาลญี่ปุ่นที่เดือดร้อน แต่เป็นเจ้าของปั๊มต่างหาก”